กระจกหน้าของเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งแห่งสายการบินบริติช แอร์เวย์ส แตกร้าวทั้งบาน หลังจู่ๆ มีก้อนน้ำแข็งปริศนาร่วงลงมาใส่ขณะบินอยู่ ณ ระดับความสูง 35,000 ฟุต และจากการตรวจสอบในเวลาต่อมา พบว่า ต้นตอของมันมาจากเครื่องบินอีกลำที่บินอยู่เหนือขึ้นไป 1,000 ฟุต
นักบินของเครื่องบินโบอิ้ง777 ที่กำลังเดินทางจากท่าอากาศยานแกตวิค ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มุ่งหน้าสู่คอสตาริกา รอดตัวไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากกระจกที่ร้าวทั้งบาน ก่อนนำเครื่องบินลงจอดที่จุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย
แหล่งข่าวเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เดอะซันเมื่อคืนวันเสาร์ (25 ธ.ค.) เกี่ยวกับเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี (23 ธ.ค.) ว่า "มันเสียงดังสนั่นเลย เหตุการณ์ลักษณะนี้มีโอกาสเกิดขึ้นแค่ 1 ในล้านเท่านั้น แต่พวกผู้โดยสารและลูกเรือโชคดีมาก เครื่องบินกำลังบินไปในทิศทางเดียวกันและความเร็วของน้ำแข็งที่ร่วงลงมานั้นอยู่ในระดับต่ำ"
"หากมันเกิดขึ้นตอนที่เครื่องบินทั้ง 2 ลำบินสวนทางกัน มันก่อผลกระทบหายนะเลยก็ได้" แหล่งข่าวระบุ
โฆษกของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า "เครื่องบินไม่จำเป็นต้องลดระดับเพดานการบินฉุกเฉินหรือลงจอดฉุกเฉิน"
แม้นักบินสามารถนำเครื่องบินลงจอดที่กรุงซันโฮเซ เมืองหลวงของคอสตาริกา แต่การซ่อมแซมเป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้น มันจึงก่อหายนะแก่ผู้โดยสารราว 200 คนที่จองตั๋วกลับไปยังลอนดอนในวันคริสต์มาสอีฟ บางส่วนต้องค้างคืนที่โรงแรมของสนามบิน และท้ายที่สุดได้บินออกมาในวันบ็อกซิ่งเดย์ ล่าช้ากว่ากำหนดถึง 50 ชั่วโมง
(ที่มา : เดอะซัน/เดลิเมล)