การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ “โอมิครอน” ส่งผลให้สายการบินทั่วโลกประกาศยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 4,500 เที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองร่วมกับครอบครัวและท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวซึมเซาต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน FlightAware.com ระบุว่า เที่ยวบิน 2,401 เที่ยวทั่วโลกถูกยกเลิกในวันคริสต์มาสอีฟ 24 ธ.ค. ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นวันที่มีผู้โดยสารคับคั่งมากเป็นพิเศษ ขณะที่เที่ยวบินอีกเกือบ 10,000 เที่ยวก็ประสบปัญหาล่าช้า
ในวันคริสต์มาสจะมีเที่ยวบินถูกยกเลิกอีก 1,779 เที่ยว และอีก 402 เที่ยวซึ่งมีกำหนดเดินทางในวันอาทิตย์นี้ (26)
กว่า 1 ใน 4 ของเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกเป็นเที่ยวบินภายในประเทศของสหรัฐฯ หรือเที่ยวบินระหว่างประเทศที่จะเดินทางเข้า-ออกสหรัฐอเมริกา
ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส และเดลตาแอร์ไลน์ส 2 สายการบินหลักของสหรัฐฯ มีการยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 280 เที่ยวในวันศุกร์ (24) โดยอ้างเหตุผลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีบุคลากรไม่เพียงพอให้บริการ
ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ กลับมาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการระบาดของเชื้อโอมิครอน ซึ่งพบเป็นครั้งแรกที่แอฟริกาใต้เมื่อเดือน พ.ย. และเวลานี้ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐฯ โดยคิดเป็นราวๆ 2 ใน 3 ของยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด และสูงถึง 90% ในบางพื้นที่ เช่น แถบชายฝั่งภาคตะวันออก (Eastern Seaboard)
จากสถิติที่รวบรวมโดยสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 45% มาอยู่ที่เฉลี่ย 179,000 คนต่อวันตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่รัฐนิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อพุ่งทุบสถิติกว่า 44,000 คนในวันศุกร์ (24)
ภาคอุตสาหกรรมและระบบขนส่งมวลชนในอังกฤษกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีพนักงานติดโควิด-19 ที่ต้องกักตัวเป็นจำนวนมาก ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มออกมาเตือนถึงความเสี่ยงต่อชีวิตผู้ป่วย
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษพบว่า ชาวกรุงลอนดอน 1 ใน 20 คนติดโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 1 ใน 10 ภายในต้นสัปดาห์หน้า
อังกฤษพบผู้ติดเชื้อใหม่รวมทั้งสิ้น 122,186 คนในวันศุกร์ (24) ซึ่งเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่องที่ยอดติดเชื้อรายวันทะลุเกินแสน
สถานการณ์ในฝรั่งเศสก็ย่ำแย่พอกัน โดยยอดผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งทุบสถิติกว่า 94,000 คนในวันศุกร์ (24) ขณะที่จำนวนผู้ป่วยซึ่งรักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน
ที่มา : รอยเตอร์