xs
xsm
sm
md
lg

‘ไบเดน’ สั่งเพิ่มศูนย์ฉีดวัคซีน-แจกชุดตรวจ 500 ล้านชุดรับมือ ‘โอมิครอน’ ยันคนฉีดวัคซีนครบยังฉลองคริสต์มาสได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศแผนตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มทั่วประเทศ เพื่อรับมือการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน และจะแจกชุดตรวจโควิดฟรี จำนวน 500 ล้านชุดให้แก่ครอบครัวชาวอเมริกันตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีหน้า ขณะเดียวกัน ฝากคำเตือนไปถึงผู้ที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีน และรับรองว่าคนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วจะยังสามารถทำกิจกรรมสังสรรค์ในช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ได้

ไบเดน ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาววานนี้ (21 ธ.ค.) โดยย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เดือน มี.ค. ปี 2020”

“ประชากร 200 ล้านคนฉีดวัคซีนครบแล้ว เรามีการเตรียมพร้อมและมีความรู้มากขึ้น”

ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นในขณะที่หลายรัฐและเมืองทั่วอเมริกาสั่งฟื้นนโยบายคุมเข้มทางสังคมเพื่อปกป้องคนส่วนใหญ่ รวมถึงนำมาตรการบังคับฉีดวัคซีนมาใช้

ไบเดน ฝากคำเตือนไปถึงชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ประมาณ 1 ใน 4 ที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ โดยบอกว่าพวกเขา “มีความเสี่ยงสูงที่จะต้องนอนโรงพยาบาล หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต” พร้อมทั้งย้ำว่าแม้แต่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เองก็ยังไปฉีดเข็มบูสเตอร์มาแล้ว

“มันอาจจะเป็นเพียงไม่กี่เรื่องที่เขาและผมเห็นตรงกัน” ไบเดน กล่าว

มาตรการใหม่ที่ ไบเดน แจกแจงเมื่อวานนี้ (21) ยังรวมถึงการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนและศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่ม ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง (Federal Emergency Management Agency) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่สัปดาห์นี้ รวมถึงที่มหานครนิวยอร์กซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการระบาด

รัฐบาลสหรัฐฯ ยังเตรียมส่งแพทย์ทหาร พยาบาล และเจ้าหน้าที่การแพทย์ราว 1,000 คนลงพื้นที่ช่วยเหลือโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีผู้ป่วยโควิด-19 ล้นมือ

ไบเดน ถูกวิจารณ์ว่าใช้มาตรการตอบสนองโควิด-19 ที่เน้นการฉีดวัคซีนมากกว่าการตรวจหาเชื้อและรณรงค์สวมหน้ากาก ขณะเดียวกัน ประเมินกระบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านวัคซีนในสหรัฐฯ ต่ำเกินไป

ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า การฉีดวัคซีนนั้นถือเป็น “ภาระหน้าที่เพื่อชาติ” รวมถึงวิจารณ์บริษัทสื่อสังคมออนไลน์และโทรทัศน์ช่องต่างๆ ที่ปล่อยให้มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ซึ่งสุดท้ายแล้วอาจจะเป็นการฆ่าผู้ชมทางอ้อม


อย่างไรก็ดี มาตรการใหม่ของสหรัฐฯ จะยังไม่มีผลเต็มที่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันยังต้องวิ่งวุ่นหาชุดตรวจเชื้อก่อนที่จะจัดกิจกรรมรวมตัวหรือเดินทางท่องเที่ยว ขณะที่บางคนเริ่มลังเลไม่แน่ใจว่าการทำกิจกรรมในช่วงนี้จะปลอดภัยหรือไม่

โควิดสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งตรวจพบครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ย. เวลานี้ได้กลายเป็น “สายพันธุ์หลัก” ในสหรัฐฯ ไปเรียบร้อยแล้ว โดยคิดเป็น 73% ของผู้ที่ติดเชื้อใหม่ ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า คุณสมบัติของโอมิครอนที่แพร่กระจายได้เร็วทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 2 เท่าตัวในทุกๆ 1.5-3 วัน และยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนพอจะฟันธงได้ว่ามันจะก่ออาการป่วยที่รุนแรงมากกว่า “เดลตา” หรือไม่

ไบเดน เตือนว่า แม้แต่ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนครบแล้วก็อาจจะติดเชื้อโอมิครอนได้ แต่คาดว่าอาการป่วยจะไม่รุนแรง

เจ้าหน้าที่พบการติดเชื้อแบบฝ่าภูมิคุ้มกัน (breakthrough infections) เพิ่มขึ้นในกลุ่มประชากรสหรัฐฯ 61% ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว รวมถึง 30% ที่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์

แนวโน้มผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นทำให้หน่วยงานท้องถิ่นของสหรัฐฯ เริ่มหามาตรการจูงใจให้คนไปฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อ โดย บิล เดอ เบลซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ประกาศวานนี้ (21) ว่า จะมอบเงิน 100 ดอลลาร์ให้แก่ชาวนิวยอร์กที่ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในศูนย์ฉีดของทางเมืองภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่โรงพยาบาลของรัฐในนครนิวยอร์กก็จะอนุญาตให้บุคคลเข้าเยี่ยมได้เฉพาะผู้ป่วยที่เป็นทารก เด็ก หญิงตั้งครรภ์ที่คลอดบุตร หรือผู้ป่วยอาการหนักใกล้เสียชีวิต โดยที่ผู้เข้าเยี่ยมเองจะต้องฉีดวัคซีนครบ หรือแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบภายใน 24 ชั่วโมง

ที่มา : รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น