xs
xsm
sm
md
lg

ที่ปรึกษา CDC ชั่งใจ จำกัดใช้วัคซีน J&J กังวลหลังพบเคสลิ่มเลือดอุดตันมากขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) จะประชุมกันในวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการจำกัดการใช้วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน สืบเนื่องจากประเด็นลิ่มเลือดอุดตันที่ยังมีอยู่ ส่วนใหญ่ในผู้หญิงวัยรุ่นและวัยกลางคน

วัคซีนเข็มเดียวถูกโยงกับอาการลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงที่เกิดขึ้นน้อยมากๆ จนทำให้เคยถูกระงับใช้มาแล้วเป็นเวลา 10 วันในช่วงเดือนเมษายน เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางได้จับตาอย่างใกล้ชิดเคสผู้หญิง 6 คนที่ประสบปัญหาดังกล่าว

ผู้หญิงทั้ง 6 เป็นเคสลิ่มเลือดอุดตันเพียงไม่กี่เคสในบรรดาผู้ฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมากกว่า 7 ล้านคนในสหรัฐฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว และต่อมาหนึ่งในนั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม คำสั่งระงับถูกยกเลิกหลังการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างครอบคลุมสรุปแล้วว่าประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยง

วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางรายหนึ่งซึ่งใกล้ชิดกับสถานการณ์ เปิดเผยว่าในวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) จะมีการนำเสนอข้อมูลใหม่ต่อคณะที่ปรึกษาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการฉีดวัคซีน (Advisory Committee on Immunization Practices) ที่จะแสดงให้เห็นว่าอัตราลิ่มเลือดอุดตันในคนที่ฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน และแม้ปัญหานี้ยังคงเกิดขึ้นน้อยมาก แต่ก็มีผู้เสียชีวิตราว 9 คนในความเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว

สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ ให้ข้อมูลอัปเดตในเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับวัคซีนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ บอกว่า พบเคสลิ่มเลือดอัดตันราว 1 เคสต่อการฉีดวัคซีน 100,000 โดส และกลุ่มบุคคลที่มีอัตราเกิดเคสลิ่มเลือดอุดตันสูงที่สุดคือ ผู้หญิงอายุระหว่าง 30 ถึง 49 ปี

รายงานอย่างครอบคลุมฉบับหนึ่งเกี่ยวกับอาการลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนระหว่างเดือนธันวาคมปีก่อนจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม พบผู้เสียชีวิต 6 ราย ในบรรดาผู้ฉีดวัคซีนเข็มเดียวของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แล้วมีอาการลิ่มเลือดอุดตัน 50 คน แต่ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้เข้ารับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันไปทั้งสิ้น 14 ล้านคน ตามผลการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อที่เดือนที่แล้ว ทว่า ยังไม่ผ่านการตรวจสอบทบทวนของผู้ทรงคุณวุฒิ

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้ ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุว่า "แน่นอนว่าคณะที่ปรึกษาจะได้รับข้อมูลอัปเดตบางอย่างระหว่างเดือนเมษายนจนถึงตอนนี้ ว่ามีเคสมากน้อยแค่ไหนในเวลานี้หากเปรียบเทียบกับก่อนหน้านั้น และประชากรบางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น บนพื้นฐานของอายุ เพศ และโรคประจำตัว"

หลังจากทบทวนข้อมูล คาดหมายว่าทางคณะที่ปรึกษาจะลงมติว่าจะปรับปรุงคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้วัคซีนหรือไม่ โดยในทางเลือกต่างๆ นั้น รวมไปถึงคงคำแนะนำปัจจุบันให้ฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแก่บุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป กำจัดมันทิ้งหรือใช้เฉพาะกับประชากรบางกลุ่ม

ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งอาจเป็นการแนะนำให้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา แทนผลิตภัณฑ์ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในสิ่งที่เรียกว่าคำแนะนำทางเลือก

แหล่งข่าวทางคลินิกอีกคนที่รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมในวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในคำแนะนำใช้วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน น่าจะใช้กับทั้งเข็มแรกและเข็มกระตุ้นด้วย

คำแนะนำดังกล่าวของคณะที่ปรึกษาจำเป็นต้องผ่านการลงนามรับรองของแพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการของซีดีซี ก่อนที่มันจะกลายเป็นคำแนะนำอย่างเป็นทางการของทางสำนักงาน

(ที่มา : วอชิงตันโพสต์)


กำลังโหลดความคิดเห็น