xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.จิลล์” ของ ปธน. US ใส่ชุดซ้ำออกอีเวนต์ใหญ่ ทำงานฟูลไทม์นอกทำเนียบ : ประเพณีใหม่เขย่าสถาบันเฟิสต์เลดี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กว่า 11 เดือนที่ผ่านมา จิลล์ ไบเดน สร้างประเพณีใหม่ให้แก่สถาบันสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา โดยเป็นประเพณีใหม่ที่จะใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น พร้อมกับธำรงรักษาคุณค่าของตนเอง
เห็นใบหน้าสวยหวาน รอยยิ้มใจดี ท่าทีเรียบง่าย อย่าเผลอกะพริบตาเป็นอันขาด ด็อกเตอร์จิลล์ ไบเดน ศรีภริยาประจำดวงใจประธานาธิบดีโจ ไบเดนของชาวอเมริกัน เดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องใหญ่อย่างเงียบๆ แต่เอาจริงแน่วแน่

กว่า 11 เดือนที่ผ่านมา จิลล์ ไบเดน สร้างประเพณีใหม่ให้แก่สถาบันสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา โดยเป็นประเพณีใหม่ที่จะใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากขึ้น พร้อมธำรงรักษาคุณค่าเฉพาะตัว ตั้งแต่ด้านการใช้ชีวิต (ซึ่งตลอดที่ผ่านมาสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐฯ จะยุติอาชีพการงาน เพื่อทุ่มเทเวลาให้แก่การงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของประธานาธิบดี) ไปจนถึงเรื่องเลือกเครื่องแต่งกายออกงานสำคัญ (ซึ่ง “เฟิสต์เลดี้” มีประเพณีที่จะไม่สวมชุดออกงานซ้ำ)

เต็มที่กับงานช่วยสามี ปธน. แต่งานสอนหนังสือต้องเสร็จก่อน

ในพิธีเคารพศพอดีตผู้ว่าการรัฐเดลาแวร์ เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2021 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเป็นประธานพิธี ได้ออกปากกล่าวขออภัยที่ ดร.จิลล์ ภริยาแสนสวย ไม่สามารถมาร่วมงานด้วย

“สาเหตุที่จิลล์ไม่ได้มากับผมในวันนี้ เป็นเพราะเธอต้องสอนหนังสือครับ ภรรยาของผมเป็นอาจารย์ประจำวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น เวอร์จิเนีย คอมมิวนิตี คอลเลจ” ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวออกไมโครโฟนให้ได้รับทราบกันโดยทั่วถึง

ความเป็นมาของเรื่องนี้มีอยู่ว่า ตลอดสองสมัยที่โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในยุคของประธานาธิบดีบารัค โอบามา (ม.ค.2009-ม.ค.2017) นั้น จิลล์ ไบเดน ผู้เป็นภริยาทำงานสอนหนังสือที่วิทยาลัยชุมชนนอร์ทเทิร์น เวอร์จิเนีย โดยตลอด ตั้งต้นตั้งแต่ปี 2009 และต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน ทั้งนี้ หน่วยรักษาความปลอดภัยปฏิบัติหน้าที่อารักขาไปตามปกติ เพียงแต่จะอำพรางตัวในชุดแต่งกายที่ละม้ายว่าเป็นนักศึกษา

ต่อมา ในปี 2020 ที่สหรัฐฯ ต้องล็อกดาวน์ประเทศตามมาตรการป้องกันวิกฤตโรคโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาดรุนแรง สถาบันการศึกษาทั้งหมดจึงทำการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์กันตั้งแต่ปีที่แล้ว จดถึงช่วงท้ายของไตรมาส 3/2021

ในการนี้ ดร.จิลล์ ของนักศึกษาก็ทำการสอนออนไลน์เช่นเดียวกับอาจารย์อื่นๆ ทั่วประเทศ โดยทำงานสอนหนังสือควบคู่กับการช่วยสามีรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กระทั่งเมื่อสามีเข้าทำงานเต็มตัวเป็นบิ๊กบอสที่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม 2021 ดร.จิลล์ ก็สอนหนังสือผ่านหน้าจอไปตามปกติ พร้อมกับจัดสรรเวลาที่เหลือจากงานสอนหนังสือให้แก่การช่วยเหลือภารกิจอันมากมายของประธานาธิบดีผู้เป็นสามี

จดจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา สภาวะวิกฤตโควิด-19 บรรเทาความรุนแรงลง สถาบันการศึกษาต่างๆ เริ่มให้อาจารย์และนักศึกษาเข้าไปทำการเรียนการสอนกันในชั้นเรียนได้ ดังนั้น ดร.จิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งก็เริ่มทำการสอนหนังสือในชั้นเรียนที่วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น เวอร์จิเนียฯ หลังจากที่สอนออนไลน์อย่างต่อเนื่องมาปีกว่า

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งประธานาธิบดีคนที่ 46 ถูกแจ้งทราบไปยังกองทัพนักข่าว และแล้ว ดร.จิลล์ ไบเดน ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ฮือฮาของสารพัดค่ายสื่อมวลชน

ฮือฮากันนักหนาเพราะรอลุ้นรอดูกันอยู่ว่า ดร.จิลล์ จะยอมยุติอาชีพการงานส่วนตัว มาปฏิบัติหน้าที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเต็มเวลาหรือไม่ ในเมื่อตลอดที่ผ่านมา ไม่เคยมีคู่สมรสของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ รายใด ที่ไม่ยุติหน้าที่งานซึ่งเคยใช้เลี้ยงชีวิต เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแบบฟูลไทม์ ไม่ว่าจะเป็น แจ็กเกอลีน เคนเนดี ฮิลลารี คลินตัน ลอรา บุช มาจนถึงมิเชลล์ โอบามา (เมลาเนีย ทรัมป์ เลิกจากอาชีพนางแบบ มาเป็นเซเลบแบบฟูลไทม์ เนิ่นนานแล้ว) ทั้งนี้ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทุกรายล้วนแต่จะอุทิศเวลาทั้งหมดไปกับการสนับสนุนสามี เลี้ยงดูบุตร และดำเนินบทบาทเจ้าบ้านจัดกิจกรรมพบปะต่างๆ ภายในทำเนียบขาว

ป้ายข้อมูลอาจารย์ผู้สอน ติดบนประตูห้องเรียน โดยเป็นข้อมูลของดร.จิลล์ ไบเดน ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนแบรนดี้ไวน์ ในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์  ภาพนี้ถูกเผยแพร่โดยทีมหาเสียงของโจ ไบเดน ในช่วงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2020  สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งให้สัมภาษณ์เอพีว่า เธอต้องการจะเป็นผู้หญิงทำงาน และตลอด 8 ปีที่สามีของเธออยู่ในตำแหน่งรองประธานาธิบดีนั้น เธอทำงานเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยชุมชนเวอร์จิเนีย โดยถือว่างานสอนเป็นภารกิจหลัก  และยืนหยัดที่จะไม่ยอมให้ภารกิจของสามีมาบีบให้เธอต้องยุติการสอนหนังสือ  ทั้งนี้ เธอบอกว่า “การสอนมิใช่แค่สิ่งที่ดิฉันทำ การสอนคือสิ่งที่ดิฉันเป็น”
สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งรายแรกที่นั่งรถออกจากทำเนียบขาวไปทำงานฟูลไทม์

ดร.จิลล์ ไบเดน ยังมีใบหน้าสดสวย เรือนกายแบบบางสูงโปร่ง แม้อายุอานามเข้าสู่วัย 70 ปีแล้ว เธอสมรสกับ โจ ไบเดน เมื่อปี 1977 ซึ่งขณะนั้นเป็นวุฒิสมาชิกหนุ่มใหญ่อนาคตไกล ผู้ที่มาขอเดท และคบหาดูใจกันโดยที่ว่าเขามีอายุมากกว่าเธอถึง 9 ปี และเป็นพ่อหม้ายลูกสอง

ในช่วงที่ได้รู้จักกัน จิลล์อยู่ระหว่างดร็อปการเรียนซึ่งเป็นระดับอุดมศึกษา และยังมีภารกิจค้างคาในคดีหย่าร้างแบ่งทรัพย์สิน โดยที่ตัวเธอขยันทำงาน และเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนางแบบ-พริตตี้แนะนำสินค้า เธอจึงปรากฏเป็นภาพพริตตี้หน้าหวาน นามจิลล์ เจคอบส์ บนป้ายโฆษณาทั่วเมือง และภาพของเธอสามารถโดนตา ต้องใจของวุฒิสมาชิกโจ ไบเดน

ระหว่างที่คบหาดูใจกันนั้น จิลล์เบนเข็มชีวิตออกจากการทำงานเลี้ยงชีพ หันมาเร่งการศึกษาให้สำเร็จ พร้อมทั้งตัดสินใจยุติศึกแบ่งทรัพย์สินในคดีหย่าร้างอันยืดเยื้อ โดยยอมที่จะไม่รับส่วนแบ่งสินสมรส

เมื่อจบการศึกษาแล้ว จิลล์เข้าทำงานในอาชีพอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ และสนุกกับงานอยู่นาน กว่าที่จะตัดสินใจยอมตอบรับคำขอแต่งงานครั้งที่ 5 จากวุฒิสมาชิกโจ ไบเดน ทั้งนี้ ในชีวิตสมรสระหว่างจิลล์กับโจ ทั้งสองมีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งราย

ในฐานะสมาชิกสหภาพครูแห่งชาติ จิลล์ ไบเดนดำเนินชีวิตในฐานะอาจารย์ควบคู่กับการเป็นภรรยานักการเมือง อีกทั้งยังเรียนต่อในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ภารกิจเหล่านี้เป็นงานแห่งความเพลิดเพลินและความภูมิใจสำหรับจิลล์ ดังนั้น เมื่อโจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีภายใต้การนำของบารัค โอบามา ระหว่างปี 2007-2011 จิลล์ ผู้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขสองในขณะนั้น มิได้ลาออกจากตำแหน่งอาจารย์ และยังคงทำงานสร้างรายได้แก่ตนเองเรื่อยมา

จิลล์ ไบเดน ถ่ายภาพร่วมกับโจ ไบเดน (ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก) และลูกชายทั้งสองของวุฒิสมาชิกโจ คือ โบ (ซ้ายสุด) กับฮันเตอร์ ในเวลานั้น คุณแม่ของน้องโบและน้องฮันเตอร์ได้จากโลกนี้ไปแล้วในอุบัติเหตุทางรถยนต์
ตลอดเวลาหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีการล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐฯ ก็สอนหนังสือแบบออนไลน์เช่นเดียวกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ก่อนจะกลับมาสอนกันในชั้นเรียนตั้งแต่เมื่อกันยายนที่ผ่านมา

ปัจจุบันนี้ ดร.จิลล์ มีภารกิจการสอนในห้องเรียนรวม 2 คาบต่อสัปดาห์ ได้แก่ วิชาภาษาอังกฤษและวิชาการเขียน

เมื่อภารกิจการสอนเสร็จสิ้น สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งวัย 70 ปี ผู้ยังกระฉับกระเฉง เปี่ยมด้วยพลังชีวิต จะนำความงดงามของใบหน้าและทรวดทรงไปปรากฏตัวเคียงข้างประธานาธิบดีโจ ไบเดนในกิจกรรมทั้งปวง อีกทั้งยังปฏิบัติหน้าที่แบบฉายเดี่ยวบนเวทีปราศรัยต่างๆ เช่น การช่วยรณรงค์ให้ประชาชนในหลายหลากมลรัฐเกิดความตื่นตัวที่จะเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19

ปฏิบัติงานตั้งแต่รณรงค์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปถึงการนำกองทัพนักกีฬาไปแข่งโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งนามว่า จิลล์ ไบเดน เป็นผู้หญิงราศีเมถุนซึ่งมากมายด้วยพลังชีวิต ความริเริ่มสร้างสรรค์ ความเป็นตัวของตัวเอง และความมั่นใจที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา เธอใช้เวลาซึ่งเหลือจากการสอนหนังสือ ไปดำเนินสารพัดกิจกรรมสนับสนุนการงานของท่านประธานาธิบดีอเมริกัน

จิลล์ ไบเดนเดินทางไปทั่วประเทศ ไปรณรงค์ให้ผู้คนตื่นตัวที่จะสมัครใจรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัส

ในคราวที่สมาชิกพรรคเดโมแครตรายหนึ่งต้องรณรงค์หาเสียงรักษาเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐ จิลล์จัดสรรเวลาไปช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่

จิลล์ ไบเดนรับเป็นประธานคณะนักกีฬาแห่งสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมมหกรรมโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกรกฎาคม นอกจากนั้น มีสื่อมวลชนเสนอข่าวว่าเธอไปจิบกาแฟสนทนากับ บรีฌิต มาครง ภริยาประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในคาเฟที่กรุงโรม ระหว่างการประชุมจี 20 วันที่ 29 ตุลาคม 2021 ซึ่งห้วงเวลานั้นรัฐบาลวอชิงตันประสบวิกฤตการทูตกับรัฐบาลปารีส

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จิลล์ ไบเดน ออกทัวร์รณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนในหลากหลายมลรัฐ เกิดความตื่นตัวเข้ารับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในภาพนี้ เป็นภารกิจที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ณ โรงเรียนไอแซค มิดเดิล สกูล เมื่อ 30 มิถุนายน 2021

สองสาวผมบลอนด์ จิลล์ ไบเดน และบรีฌิต มาครง ภริยาประธานาธิบดีฝรั่งเศส ไปจิบกาแฟสนทนากันในคาเฟเจ้าดังที่กรุงโรม ระหว่างการประชุม จี 20 เมื่อ 29 ตุลาคม 2021 ซึ่งในห้วงเวลานั้น รัฐบาลวอชิงตันประสบวิกฤตการทูตกับรัฐบาลปารีส ในภาพนี้เป็นช่วงที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทั้งคู่ออกมาจากคาเฟ และแวะทักทายกองทัพนักข่าวเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถกลับที่พัก
รองศาสตราจารย์แทมมี่ ไวกิล แห่งภาควิชาสื่อมวลชน ของวิทยาลัยการสื่อสาร ในสังกัดมหาวิทยาลัยบอสตัน ตั้งข้อสังเกตว่าเห็นได้ชัดว่า จิลล์ ไบเดน ค่อนข้างจะมีการปรากฏตัวต่อสาธารณะอย่างมีจังหวะจะโคนภายในช่วงที่ผ่านมา

“ในยุคสมัยใหม่ที่ผ่านมา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ถูกคาดหวังจากสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า พวกเธอจะต้องแสดงบทบาทให้ประจักษ์ต่อสาธารณชน”

แจ็กเกอลีน เคนเนดี ทุ่มเทให้แก่การสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมของอเมริกา และมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงมหาศาลคือการบูรณะปรับปรุงทำเนียบขาว ซึ่งเธอบอกว่าภายในทำเนียบขาวแทบจะไม่มีสิ่งใดๆ ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศ เธอดำเนินงานด้วยเงินบริจาค ซึ่งมีทั้งเงินสดและเครื่องเรือนโบราณจากพิพิธภัณฑ์และจากนักสะสม เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว เธอจัดทำภาพยนตร์สั้นร่วมกับซีบีเอสที่พาทัวร์ทำเนียบขาว และมีการออกอากาศทั่วประเทศ ผู้คนชื่นชมเธอมาก และเธอได้รับรางวัลเอมมี่จากภาพยนตร์สั้นชิ้นนี้

แนนซี่ เรแกน มีบทบาทโดดเด่นมากในเรื่องรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ขณะที่บทบาทของมิเชลล์ โอบามา ออกมาในทางการส่งเสริมการรับประทานเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายในกลุ่มเด็กและเยาวชนอเมริกัน

ส่วนสำหรับเมลาเนีย ทรัมป์ ซึ่งเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งต่อเนื่องจากมิเชลล์ นั้น ไม่มีสิ่งใดให้เอ่ยถึง รศ.ไวกิล บอกว่า เมลาเนีย ทรัมป์ประสบปัญหาเยอะมากเพราะเธอไม่ขวนขวายในการสร้างประโยชน์ต่อสาธารณชน ดั่งที่สาธารณชนคาดหวัง

ในวันวาเลนไทน์ ปี 1962 สามในสี่ของผู้เสพข้อมูลจากโทรทัศน์ในสหรัฐฯ เปิดทีวีชมสารคดีเรื่องโด่งดังที่ออกอากาศทั่วประเทศ คือ “ทัวร์ทำเนียบขาว” หรือ A Tour of the White House วิดีโอเทปการพาชมทำเนียบขาวชุดนี้นำเสนอโดย แจ็กเกอลีน เคนเนดี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เดอะ โพลิติโก (The Politico) สื่อมวลชนสายข่าวการเมืองเล่าไว้อย่างนั้น และรายงานด้วยว่าเงินบริจาค จำนวน 2 ล้านดอลลาร์ แจ็กเกอลีนได้ฟื้นฟูบูรณะทำเนียบขาวให้มีเนื้อหาแห่งวัฒนธรรมอเมริกันและบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของประเทศ ในการนี้ โบราณวัตถุสำคัญจำนวนมากที่แจ็กเกอลีนรวบรวมมาจัดวางในทำเนียบขาวได้มาจากการบริจาคและหลายส่วนเป็นการให้ยืม ขณะที่พาทัวร์ห้องสำคัญต่างๆ ในทำเนียบขาว แจ็กเกอลีนได้แสดงความรู้ความสามารถเชิงประวัติศาสตร์ออกมาอย่างฉะฉาน ทว่านุ่มนวล และเปี่ยมด้วยรอยยิ้มและแววตาแห่งความสุขที่จะได้เล่าเรื่องราวทั้งปวงออกมา เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าองค์ความรู้ที่เธอบอกเล่าสู่ท่านผู้ชมนั้นมาจากภายในของจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ทั้งนี้ นอกจากที่วิดีโอเทปชุดนี้จะทำให้มหาชนนิยมชมชื่นบทบาทของเธอที่สร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติแล้ว เธอยังรับรางวัลเอมมีจากผลงานชุดนี้ด้วย อนึ่ง ภาพนี้เป็นช่วงที่แจ็กเกอลีนนำชาร์ลส์ คอลลิงวูด ผู้สื่อข่าวซีบีเอส ชมห้องจัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่แขกของรัฐบาล ซึ่งมักจะเป็นผู้นำประเทศต่างๆ ที่มาเยือนสหรัฐฯ โดยเป็นห้องที่ใหญ่โตและโอ่อ่ามากที่สุด
สร้างประเพณีใหม่ด้านประเพณีการแต่งกายของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง

ขณะที่จิลล์ ไบเดน ได้รับความนิยมชื่นชมเป็นอย่างดีกับบทบาทสร้างสรรค์สังคม กระนั้นก็ตาม เธอก็ไม่วายที่จะถูกสื่อมวลชนหาประเด็นมาจิกกัดโจมตี

ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2020 ซึ่งชัดเจนแล้วว่าโจ ไบเดน คือประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ดร.จิลล์ถูกสื่อเจ้ายักษ์สายอนุรักษนิยมปานกลางค่ายหนึ่ง จิกกัดอย่างโหด ได้แก่ ค่ายวอลล์สตรีท เจอร์นัล ซึ่งตีพิมพ์คอลัมน์ความเห็นในแนวตั้งข้อคลางใจต่อความน่าเชื่อถือเชิงวิชาการของ ดร.จิลล์

“มีความเป็นไปได้ไหมที่คุณจะไม่ใส่คำว่า ดร. นำหน้าชื่อของคุณ”

คอลัมนิสต์แห่งวอลล์สตรีท เจอร์นัลเขียนถามอย่างนั้น พร้อมใส่ความเห็นแรงๆ ระดับสิบเต็มสิบ ไม่หัก บอกว่า

“คำว่า ดร.จิลล์ ไบเดน ฟังดูหลอกลวงต้มตุ๋น แถมยังให้ความรู้สึกว่าเป็นเพียงจินตนาการ ฝันเฟื่องแบบขำขัน”

เป็นสไตล์เฉพาะตัวของจิลล์ ไบเดน ที่จะปะคำว่า ด็อกเตอร์ ไว้หน้าชื่อมาอย่างเนิ่นนานแล้ว ในภาพนี้ที่เป็นหนึ่งในภาพสนุกๆ เพื่อการรณรงค์ขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนสำหรับการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 จิลล์ใช้คำว่า “ดร.” แทนชื่อ จิลล์ ตามสไตล์ปกติของเธอ
ต่อมา ช่วงต้นเดือนเมษายน 2021 สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งผู้งามพริ้งและมีรูปโฉมอ่อนวัยกว่าอายุจริง ถูกรุมถล่มครั้งใหญ่ หลังจากที่ปรากฏตัวในข่าวภารกิจภริยาประธานาธิบดีในชุดร็อกแอนด์โรลสุดฟรุ้งฟริ้ง อันได้แก่ กระโปรงหนังสีดำแสนสวยและถุงน่องมีลายในตัว พร้อมรองเท้าบู๊ตสั้น แม้อายุอานามอยู่ในหลักเจ็ดแล้ว แต่ด้วยเรือนร่างที่ยังผอมเพรียว แข็งแรง กระฉับกระเฉง ดร.จิลล์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แลดูงดงามผุดผ่องด้วยออร่าของความสุข

ผลกระทบจากชุดสวย ดร.จิลล์ ตกอยู่ในกระแสวิพากษ์สาดเสียเทเสียจากท่านผู้ชมสายอนุรักษนิยมสุดโต่ง ซึ่งแห่กันมาถล่มเธอบนโซเชียลมีเดีย เช่น การใช้คำว่าแต่งตัวดั่งผู้หญิงขยะ ที่ดูจะเหมาะสมกับสาววัยอ่อนกว่าเธอลงมาครึ่งทาง อีกทั้งยังน่าอับอายต่อสถานภาพสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม แฟนานุแฟนของ ดร.จิลล์ ช่วยกันยกขบวนเข้าไปตอบโต้ ด้วยประเด็นว่า ดร.จิลล์สะสวย และมีความจ๊าบที่มาพร้อมบรรยากาศหรูหราเปี่ยมรสนิยม และมีมากมายที่เชียร์ว่าชุดสวยนี้บ่งบอกถึงความสำเร็จขั้นสุดยอดของ ดร.จิลล์ในการดูแลสุขภาพร่างกาย

ด้านซีเอ็นเอ็นโดดเข้าขี่กระแสตรงนี้ โดยนำเสนอคอลัมน์ความเห็นบนเว็บไซต์ ที่เรียกร้องให้สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแสดง “ความยับยั้งชั่งใจ” ให้มากขึ้นในยามที่จะเลือกชุดเครื่องแต่งกาย

คอลัมน์ดังกล่าวของซีเอ็นเอ็นซึ่งเขียนโดยนักจิตวิทยาคนดัง นามว่า เพ็กกี เดร็กซ์เลอร์ ให้ความเห็นว่า “สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งมีหน้าที่ที่จะต้องทำตนให้ดูภาคภูมิและสง่างาม”

ในวัน April Fools’ Day (1 เมษายน 2021) ดร.จิลล์ ไบเดน ออกงานที่แคลิฟอร์เนีย และในภาพนี้ เป็นช่วงที่เดินทางกลับสู่ทำเนียบขาวโดยก้าวลงจากเครื่องบินที่ฐานทัพอากาศแอนดรูส์ในแมรีแลนด์ โดยสวมกระโปรงหนังสีดำแสนสวย และถุงน่องมีลายในตัว พร้อมรองเท้าบู๊ตสั้นแค่เข่า แม้อายุอานามอยู่ในหลักเจ็ดแล้ว แต่ด้วยเรือนร่างที่ยังผอมเพรียว แข็งแรง กระฉับกระเฉง ดร.จิลล์ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แลดูงดงามผุดผ่องด้วยออร่าของความสุข ราว 3-4 วันที่ภาพนี้เป็นข่าวออกไป เสียงเม้ามอยและติเตียนจึงกระหึ่มแบบจัดหนักในแวดวงทวิตเตอร์ของท่านผู้ชมสายอนุรักษนิยม
เฟิสต์เลดี้ จิลล์ ชิลอย่างยิ่งกับการนำชุดสวยมาใส่ซ้ำ ไปออกหลายอีเวนต์สำคัญ

ประเด็นข้างต้นจบไปไม่นาน สื่อมวลชนและท่านผู้ชมหันมาจับจ้องและถกกระทู้กันในเรื่องที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนปัจจุบัน นำชุดออกงานมาใช้ซ้ำ ซึ่งแย้งกับประเพณีเก่าแก่ที่ว่าสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทุกรายก่อนหน้าจิล ไบเดน ตลอดจนบรรดาสตรีผู้ทรงศักดิ์ในตระกูลผู้นำของนานาประเทศ ล้วนปฏิบัติตามประเพณีการสวมชุดสวยออกงาน 1 ชุดต่อ 1 งานเท่านั้น ภายใต้แนวคิดว่าแต่ละอีเวนต์สำคัญสมควรได้รองรับชุดแสนงามและสุดหรูอันเหมาะเจาะเฉพาะกับจุดเด่นของอีเวนต์

สกู๊ปของสื่อหลายค่าย รวมทั้งของนิวยอร์กไทมส์ ขาใหญ่อเมริกันผู้ทรงอิทธิพล เสนอข้อมูลและภาพหลักฐานอย่างละเอียดว่า บ่อยครั้งกันทีเดียว สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ คนปัจจุบันสวมใส่ชุดออกงานใหญ่ซ้ำ เช่น

เสื้อเบลเซอร์ชมพูสวยกระจ่างตา ของลาจ๊องซ์ แบรนด์แฟชั่นอเมริกันแท้ (ราคา 625 ดอลลาร์) ซึ่ง ดร.จิลล์ สวมทับชุดกระโปรงขาวของอาคริส (สนนราคา 2,900 ดอลลาร์) ขณะออกภารกิจด้วยกันกับดัชเชสเคท มิดเดิลตัน พระชายาแห่งเจ้าชายวิลเลียม เมื่อ 11 มิถุนายน เพื่อเยี่ยมสถาบันการศึกษา Connor Downs Academy ที่เวสต์ คอร์วอลล์ นั้น ดร.จิลล์ เคยสวมออกงานครั้งหนึ่งในภารกิจเยี่ยมชมกิจการวิทยาลัยชุมชนเซาก์ แวลเลย์ รัฐอิลลินอยส์ เมื่อเมษายน 2021

เดรสพื้นขาวลายจุดดำ ผลงานของแบรนดอน แม็กซ์เวลล์ ซึ่ง ดร.จิลล์เลือกมาสวมใส่ในโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และในพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 นั้น ผู้คนได้เห็นเธอสวมชุดนี้ในช่วงการประชุมจี-7 ที่คอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษในเดือนมิถุนายน 2021 โดยเธอสวมไว้ใต้เสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงินที่มีคำว่า LOVE ติดด้านหลังของเสื้อ

ชุดกระโปรงขาว โดยไมเคิล คอส์ ที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งสวมอยู่ใต้แจ็กเกตทีมนักกีฬายูเอสเอ สีขาว ในช่วงปฏิบัติงานที่กรุงโตเกียว ก็เป็นอีกชุดหนึ่งที่ผู้คนเคยเห็นเธอสวมอยู่ใต้เสื้อสูทน้ำเงินขณะก้าวลงจากเครื่องบินพร้อมประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมประชุมจี-7 ที่เมืองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ

ชุดกระโปรงสีน้ำเงินลายดอกไม้ ผลงานของออสการ์ เดอ ลา เรนต้า ดีไซเนอร์ในสหรัฐฯ ที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งสวมใส่ช่วงการประชุมกลุ่มจี-7 ที่คอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ รวมทั้งในช่วงเยี่ยมเยือนครอบครัวทหารผ่านศึกที่นิวลีน คอร์นวอลล์ นั้น เป็นชุดที่เคยใช้ออกงานใหญ่ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2020 ได้แก่ อีเวนต์ยิ่งใหญ่ของพรรคเดโมแครตที่จัดขึ้นเพื่อประกาศชัยการเลือกตั้งคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันคนที่ 46 ได้สำเร็จ

ชุดแดงที่มีปกเสื้อกว้างคลุมไหล่และทะแยงลงไปถึงเอว ผลงานของนาร์ซิโซ รอดริเกซ ซึ่ง ดร.จิลล์สวมในวันที่เดินทางถึงกรุงโตเกียว ในเดือนกรกฎาคม 2021 เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมกองทัพนักกีฬาอเมริกันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ นั้น เธอเคยสวมใส่ชุดสดใสนี้ออกงานภารกิจสนับสนุนคุณหมอแอนโทนี ฟาวซี โปรโมตการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ฟลอริดา ในเดือนมิถุนายน 2021

เสื้อเบลเซอร์ชมพูของลาจ๊องซ์ แบรนด์แฟชั่นอเมริกันแท้ สวมทับชุดกระโปรงขาวของอาคริส ถูกสวมไปภารกิจร่วมกันกับดัชเชสเคท มิดเดิลตัน พระชายาแห่งเจ้าชายวิลเลียม โดยที่ผ่านมาเคยถูกสวมออกงานครั้งหนึ่งแล้ว ในภารกิจเยี่ยมชมกิจการวิทยาลัยชุมชนเซาท์ แวลเลย์ รัฐอิลลินอยส์ เมื่อเมษายน 2021

เดรสพื้นขาวลายจุดดำผลงานของแบรนดอน แม็กซ์เวลล์ ถูกสวมใส่เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสวมไปร่วมพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 และเป็นชุดที่ถูกใช้ออกงานไปแล้วในช่วงการประชุมจี-7 ที่คอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 โดยสวมไว้ใต้เสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงินที่มีคำว่า LOVE ติดด้านหลังของเสื้อ

ขณะลงจากเครื่องบินพร้อมประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมประชุมจี-7 ที่เมืองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษในเดือนมิถุนายน 2021 สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งสวมชุดกระโปรงขาวผลงานของไมเคิล คอส์ แล้วทับด้วยเสื้อสูทน้ำเงิน กระโปรงขาวชุดนี้ถูกสวมอยู่ใต้แจ็กเกตทีมนักกีฬายูเอสเอ สีขาว ในช่วงปฏิบัติงานที่กรุงโตเกียว

ชุดกระโปรงสีน้ำเงินลายดอกไม้ ผลงานของออสการ์ เดอ ลา เรนต้า ดีไซเนอร์คนดังแห่งสหรัฐฯ ที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งสวมใส่ช่วงการประชุมกลุ่มจี-7 ที่คอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ รวมทั้งในช่วงเยี่ยมเยือนครอบครัวทหารผ่านศึกที่นิวลีน คอร์นวอลล์ เป็นชุดที่เคยใช้ออกงานใหญ่ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2020 คือ งานฉลองชัยการเลือกตั้งคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันคนที่ 46 ได้สำเร็จ

ชุดแดงที่มีปกเสื้อกว้างคลุมไหล่และทะแยงลงไปถึงเอว ผลงานของนาร์ซิโซ รอดริเกซ ซึ่งสวมในวันที่เดินทางถึงกรุงโตเกียว ในเดือนกรกฎาคม 2021 เคยสวมออกงานภารกิจสนับสนุนคุณหมอแอนโทนี ฟาวซี โปรโมตการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ฟลอริดา ในเดือนมิถุนายน 2021
แนวปฏิบัติด้านเครื่องแต่งกายของจิลล์ ไบเดน จะพลิกเกมแห่งแฟชั่นหรือไม่

นิวยอร์กไทมส์ สื่อจอมอิทธิพลในสหรัฐฯ วิเคราะห์แนวปฏิบัติด้านเสื้อผ้าอาภรณ์ ที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งรายปัจจุบันแสดงให้เห็นตลอด 11 เดือน ว่าปทัสถานดังกล่าวของจิลล์ ไบเดน กำลังพลิกโฉมหน้าของเกมแห่งแฟชั่น พร้อมกับสร้างคะแนนนิยมให้แก่ตัวเธอเองและสามีได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เธอแพกใส่กระเป๋าเดินทางไปสวมใส่ตลอด 4 วัน ที่ประเทศญี่ปุ่น ในภารกิจหัวหน้าคณะนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งโอลิมปิก โตเกียว 2020 ในเดือนกรกฎาคม 2021 อันเป็นภารกิจบินเดี่ยวในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง โดยไม่มีประธานาธิบดีโจ อยู่เคียงข้าง

ตลอด 4 วันดังกล่าว เสื้อผ้าอาภรณ์ของ ดร.จิลล์ ซึ่งอยู่ในความสนใจจับจ้องของผู้คนเสมอ ได้ช่วยโปรโมตผลิตภัณฑ์เมดอินยูเอสเอ โดยเธอเลือกใช้ผลงานของนักออกแบบแฟชั่นในประเทศทั้งกลุ่มดีไซเนอร์ตลาดบนและทั้งกลุ่มตลาดกลางด้วย

เทรนด์ดังกล่าวนี้จะตอบโต้กับแนวคิดแบบเดิมๆ ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งรายต่างๆ ที่ครองทำเนียบขาวก่อนหน้าเธอ ผู้ซึ่งจะเชื่อมั่นในแฟชั่นจากยุโรปมากกว่าแฟชั่นจากในสหรัฐฯ ด้วยกัน

ในเวลาเดียวกัน ดร.จิลล์ เดินหน้าตอกย้ำแนวปฏิบัติที่จะนำเสื้อผ้าสวยหรูงามสง่าหลายๆ ชุดที่เคยสวมใส่ที่งานประชุมกลุ่ม จี-7 ในคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ มาใช้ซ้ำในหลายๆ กิจกรรม ที่งานโอลิมปิก โตเกียว 2020 ไม่ว่าจะเป็นชุดกระโปรงพื้นขาวลายจุดดำ ของแบรนดอน แม็กซ์เวล์ ที่สวมใส่เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสวมใส่ในพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ตลอดจนชุดกระโปรงสีขาวโดยไมเคิล คอส์ ซึ่งสวมใส่ใต้แจ็กเกตขาวของทีมนักกีฬาโอลิมปิกยูเอสเอ และชุดแดงปกเสื้อกว้างคลุมไหล่และทะแยงลงถึงเอว โดยนาร์ซิโซ รอดริเกซ

สิ่งนี้ที่ ดร.จิลล์แสดงให้โลกเห็น คือการปฏิเสธแนวปฏิบัติที่เชื่อกันว่า แต่ละอีเวนต์ จะต้องมีชุดออกงานที่เฉพาะเจาะจงของอีเวนต์นั้นๆ โดยแนวปฏิบัตินี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการใช้ทรัพยากรที่ไม่คุ้มค่า

นิวยอร์กไทมส์ชี้ว่า แนวปฏิบัติของ ดร.จิลล์ คือการยุติประเพณีนิยมแห่งสถาบันสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง พร้อมกับสร้างประเพณีนิยมใหม่ที่สมด้วยเหตุผลมากกว่านั่นเอง

ในการนี้ นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ดร.จิลล์ มิได้ปฏิเสธแฟชั่น เพราะอันที่จริงนั้น เธอจะซื้อชุดใหม่ๆ จากแฟชั่นนิวยอร์กที่ออกมาในแต่ละสัปดาห์ โดยแต่ละชุดที่เธอถอยมาใส่ตู้เสื้อผ้านั้น มีทั้งแบรนด์อเมริกันที่เข้มแข็งใหญ่โต และทั้งแบรนด์อเมริกาหน้าใหม่กลุ่มสตาร์ทอัป เหนืออื่นใดก็คือ เธอทำหน้าที่ส่งเสริมธุรกิจในประเทศโดยนำแฟชั่นอเมริกันออกสู่สายตานานาประเทศผ่านเวทีระดับโลกนั่นเอง

ในการนำชุดสวย ชุดโปรด ชุดใส่สบายและดูดีมาใช้ซ้ำนั้น ดร.จิลล์ตอกย้ำคุณค่าของผลิตภัณฑ์แฟชั่นเมดอินยูเอสเอ กล่าวคือ เมื่อพบชุดที่ชอบมาก รักมาก ชุดที่ให้ความรู้สึกดีๆ ยามสวมใส่ ชุดที่เสริมบุคลิกภาพ ผู้หญิงเราย่อมจะอยากนำมาสวมใส่บ่อยๆ ยิ่งกว่านั้น สาระสำคัญที่แฝงอยู่ในการสวมชุดโปรดมากกว่าหนึ่งครั้ง คือ เสื้อผ้าเหล่านี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว และเสื้อผ้าเหล่านี้ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

นิวยอร์กไทมส์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ดร.จิลล์มีกลยุทธ์ที่หลักแหลมที่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ล็อกดาวน์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้จำนวนผู้คนในสนามแข่งขันต่างๆ ค่อนข้างเบาบาง ดังนั้น สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ทราบดีว่าตัวเธอพร้อมกับผลิตภัณฑ์แฟชั่นของอเมริกาจะโดดเด่นเห็นชัดเจน ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เธอพูดอาจจะไม่มีผู้คนสนใจฟัง แต่สิ่งที่เธอสวมใส่นั้นต้องมีผู้คนแลเห็นอย่างแน่นอน

ดร.จิลล์ เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่ช่วยเหลือการงานของประธานาธิบดีอย่างเต็มที่และทุ่มเท  ในการนี้ เธอทำหน้าที่ส่งเสริมธุรกิจในประเทศโดยนำแฟชั่นอเมริกันออกสู่สายตานานาประเทศผ่านเวทีระดับโลกเสมอ
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา : เอพี เอเอฟพี นิวยอร์ไทมส์ เดอะโพลิติโก)


กำลังโหลดความคิดเห็น