เอเจนซีส์ - บริษัททวิตเตอร์แถลงวานนี้(29 พ.ย)ว่า แจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งร่วมของทวิตเตอร์และเป็นผู้บริหารสูงสุดลาออกจากตำแหน่งก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้กับเจ้าหน้าที่หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีเชื้อสายอินเดีย ปาราก อากราวัล ส่งผลทำให้หุ้นปิดตัวต่ำลง 2.74% ในวันนั้น
CNBC สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(29 พ.ย)ว่า แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey)วัย 45 ปีทำหน้าที่ในฐานะซีอีโอใหญ่ทั้งของบริษัททวิตเตอร์และบริษัทจ่ายเงินดิจิทัล สแควร์(Square) ซึ่งหลังการลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารทวิตเตอร์ในวันจันทร์(29)แล้วแต่เขาจะยังคงทำหน้าที่ในบอร์ดต่อไปจนกว่าสมัยของเขาจะสิ้นสุดลงในการประชุมผู้ถือหุ้นปี 2022 อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัททวิตเตอร์
ทั้งนี้พบว่าประธานฝ่ายขายและCOO (Salesforce President and COO)เบรต เทย์เลอร์ (Bret Taylor) จะเป็นประธานบอร์ดคนใหม่ต่อจากคนก่อนหน้า แพททริค พิเชตต์ (Patrick Pichette) อดีตผู้บริหารระดับสูงของกูเกิลที่จะยังคงนั่งอยู่ในบอร์ดต่อไปในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ
ทั้งนี้ดอร์ซีย์กล่าวผ่านทางแถลงการณ์ว่า “ผมตัดสินใจลาออกจากทวิตเตอร์เพราะผมเชื่อมั่นว่าบริษัทสามารถเดินไปข้างหน้าจากผู้ก่อตั้งได้”
CNBC ชี้ว่าดอร์ซีย์ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัททวิตเตอร์ไม่เปิดเผยในรายละเอียดถึงเหตุผลที่แท้จริงของการลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีเชื้อสายอินเดีย ปาราก อากราวัล( Parag Agrawal)วัย 37ปีเชื้อสายอินเดียจะทำหน้าที่ในฐานะซีอีโอใหญ่ของทวิตเตอร์แทนดอร์ซีย์และจะมีผลในทันที และคาดว่าเขาต้องพบกับความท้าท้ายในการทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายใหญ่ซึ่งเมื่อต้นปีนี้ทวิตเตอร์ได้เคยออกมาประกาศตั้งเป้าที่จะมีผู้ใช้ต่อวันถึง 315 ล้านยูสเซอร์ให้ได้ภายในสิ้นปี 2023 และต้องการเพิ่มรายได้ประจำปีให้ได้เป็นอย่างน้อย 2เท่าในปีนั้น
อากราวัลทำหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีมาตั้งแต่ปี 2017 และทำงานให้กับทวิตเตอร์มานานกว่าสิบปี เขาเคยรับผิดชอบยุทธศาสตร์ด้าน AI และMachine Learning คือ ส่วนการเรียนรู้ของเครื่อง ถูกใช้งานเสมือนเป็นสมองของ AI (Artificial Intelligence)
ดอร์ซีย์กล่าวในอีเมลว่า เขาตั้งใจเลือกอากราวัลให้ทำหน้าที่บริหารทวิตเตอร์ต่อจากเขาจากการที่อากราวัลเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อบริษัททวิตเตอร์และในสิ่งที่บริษัททวิตเตอร์ต้องการ
ทั้งนี้ดอร์ซีย์ก่อนหน้าเคยเกือบถูกให้ออกจากทวิตเตอร์มาแล้วเมื่อผู้ถือหุ้นคือบริษัทเฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่ เอลเลียต แมเนจเมนท์( Elliott Management) พยายามที่จะหาทางให้เขาออกจากตำแหน่ง โดยผู้ก่อตั้งเอลเลียต แมเนจเมนท์ซึ่งเป็นเศรษฐีนักลงทุนพันล้าน พอล ซิงเกอร์( Paul Singer) ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการสมควรหรือไม่ที่จะปล่อยให้แจ็ค ดอร์ซีย์ทำหน้าที่บริหารบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ 2 แห่งไปพร้อมกัน
และส่งผลทำให้เขาออกมาเรียกร้องให้ดอร์ซีย์ยอมลาออกจากตำแหน่งบริหารหนึ่งในบริษัทที่เขากำลังกุมบังเหียนในเวลานั้นแต่ในเวลาต่อมาสามารถจบลงได้ด้วยดีเมื่อบริษัทเฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่สามารถได้ข้อตกลงกับฝ่ายบริหารของทวิตเตอร์ในท้ายที่สุด
ซึ่งในวันจันทร์(29)เอลเลียต แมเนจเมนต์ออกแถลงการณ์ถึงข่าวการลาออกของดอร์ซีย์ว่า ที่ผ่านมาในอดีตช่วง 2 ปีล่าสุดบริษัทมีความร่วมมือที่ดีกับทั้งดอร์ซีย์และกับบริษัททวิตเตอร์
CNBC รายงานว่า แจ็ค ดอร์ซีย์ผู้ที่เป็นผู้ก่อตั้งร่วมบริษัททวิตเตอร์โซเชียลมีเดียเมื่อปี 2006 ทำหน้าที่ในฐานะผู้อำนวยการบริหารมาจนถึงปี 2008 ก่อนที่เขาจะถูกบีบให้ต้องออกจากตำแหน่งไป และพบว่าในปี 2015 เขาหวนกลับมาทำหน้าที่บริหารทวิตเตอร์อีกครั้งหลังจากที่อดีตซีอีโอทวิตเตอร์ ดิค คอสโตโล(Dick Costolo)ลาออก
ทั้งนี้พบว่าหุ้นทวิตเตอร์เพิ่มขึ้น 85% นับตั้งแต่ดอร์ซีย์เข้ามาบริหารในวันที่ 5 ต.ค ปี2015 และหลังข่าวการลาออกของเขาถูกประกาศออกมาในวันจันทร์(29)ส่งผลทำให้หุ้นทวิตเตอร์ปิดต่ำลงไป 2.74% ของวัน