เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเนเธอร์แลนด์เปิดเผยในวันเสาร์(27พ.ย.) ตรวจพบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่ผู้โดยสารที่บินมาจากแอฟริกาใต้เมื่อวันศุกร์(26พ.ย.) และเชื่อว่าบางส่วนในนั้นเป็นเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธฺุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ไอไมครอน การตรวจพบครั้งนี้สร้างความประหลาดใจไม่น้อย เนื่องจากผู้โดยสารทั้งหมดต่างมีผลตรวจเชื้อเป็นลบหรือแสดงบัตรฉีดวัคซีนก่อนขึ้นเครื่อง
เคสผู้ติดเชื้อเป็นหนึ่งในบรรดาผู้โดยสาร 624 คนที่เดินทางมาถึงสนามบินสคิปโพลของเมืองอัมสเตอร์ดัม บน 2 เที่ยวบินเมื่อวันศุกร์(26พ.ย.) ก่อนหน้ารัฐบาลเนเธอร์แลยด์จะกำหนดข้อจำกัดการสัญจรทางอากาศจากแอฟริกาใต้ สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์ตัวดังกล่าว
"ในบรรดาบุคคลที่เข้ารับการตรวจ สันนิษฐานว่าพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอไมครอน" สถาบันสุขภาพแห่งชาติเนเธอร์แลนด์(RIVM)ระบุในถ้อยแถลง ขณะที่ทางโฆษกของ (RIVM) บอกว่ามันเกือบจะแน่นอนว่ามีเคสผู้ติดเชื้อที่เป็นตัวกลายพันธุ์ใหม่ แต่จำเป็นต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจอย่างที่สุด
เบื้องต้น RIVM ไม่ได้ระบุว่ามีเคสต่างๆมากน้อยแค่ไหนที่ต้องสงสัยว่าเป็นตัวกลายพันธุ์โอไมครอน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ระบุในวันเสาร์(27พ.ย.) เพียงว่ามี 61 คนบน 2 เที่ยวบินที่มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก
พวกผูุ้โดยสารจากทั้ง 2 เที่ยวบินในวันศุกร์(26พ.ย.) ถูกแยกออกจากนักเดินทางรายอื่นๆและบุคคลที่มีผลตรวจออกมาเป็นบวก เวลานี้ถูกกักกันในโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับสนามบิน
โฆษกของสายการบินเคแอลเอ็ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ฝั่งเนเธอร์แลนด์ ระบุว่าพวกผู้โดยสารบนเที่ยวบินต่างมีผลตรวจเป็นลบหรือแสดงบัตรฉีดวัคซีนก่อนเครื่องบินในเมืองเคปทาวน์และโยฮันเนสเบิร์ก
"มันอาจพูดเกินไปที่บอกว่าเรารู้สึกประหลาดใจจากเคสผู้ติดเชื้อจำนวนมาก" โฆษกของเคแอลเอ็มระบุ "แต่เราไม่รู้จะอธิบายอย่างไร"
โฆษกรายนี้ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่หลายเคสที่มีผลตรวจเป็นบวก เป็นคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว หรือมีจำนวนหนึ่งที่เชื้อไวรัสเพิ่งมีวิวัฒนาการหลังมีผลตรวจเชื้อเป็นลบ
เจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์กำลังหาทางติดต่อผู้โดยสารอีกราว 5,000 คนที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ บอตสวานา เอสวาตีนี เลโซโท โมซัมบิก นามิเบียหรือซิมบับเว นับตั้งแต่วันจันทร์(22พ.ย.) เรียกร้องให้พวกเขาเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
พอลลา ซิมเมอร์มัน ช่างภาพชาวเนเธอร์แลนด์ท่เดินทางกลับมาจากไปเยี่ยมครอบครัวในแอฟริกาใต้ในตอนเช้าวันศุกร์(26พ.ย.) เปิดเผยว่าสถานการณ์สำหรับพวกผู้โดยสารบนเที่ยวบินเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง พวกเขาต้องรออยู่บนลานจอดและในอาคารสนามบินเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
ซิมเมอร์มัน เผยว่าเธอมีผลตรวจเป็นลบตอน 04.00น. เกือบ 18 ชั่วโมงหลังเครื่องบินลงจอดในอัมสเตอร์ดัม แต่จากนั้นเธอพบว่าตนเองยืนอยู่ติดกับชายคนหนึ่งซึ่งถูกพบมีผลตรวจเชื้อเป็นบวก "มันสับสนวุ่นวายจริงๆ ไม่มีการประสานงาน มีคนแค่เล็กน้อย และไม่ดูเหมือนไม่มีใครทำหน้าที่คอยควบคุม"
การที่ต้องอยู่บนเที่ยวบินนานหลายชั่วโมงกับผู้โดยสารหลายคนที่ติดเชื้อ ทำให้ซิมเมอร์มันรู้สึกกังวลกับช่วงหลายวันข้างหน้า "ฉันได้รับแจ้งว่าพวกเขาคาดหมายว่าคนจำนวนมากจะมีผลตรวจเป็นบวกหลังผ่านไป 5 วัน มันน่าหวาดผวาเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณอยู่บนเครื่องบินร่วมกับหลายคนที่มีผลตรวจเป็นบวก"
พลเมืองเนเธอร์แลนด์ยังคงได้รับอนุญาตให้เดินทางจากภูมิภาคทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกากลับสู่มาตุภูมิ ส่วนพลเมืองอียูก็ได้รับอนุญาตให้ต่อเครื่องบินกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา
เจ้าหน้าที่การแพททย์ ลูกเรือของสายการบินและคนที่มีความจำเป็นจริงๆ ยังคงได้รับอนุญาตให้เดินทางเช่นกัน โดยทางเคแอลเอ็มจะยังคงมีเที่ยวบินมุ่งหน้าไปยังภูมิภาคแถบนี้ แต่พวกผู้โดยสารทุกคนต้องมีผลตรวจเป็นลบก่อนออกเดินทาง และจากนั้นก็ต้องกักโรคเป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน เมื่อเดินทางมาถึงเนเธอร์แลนด์
การตรวจพบตัวกลายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในขณะที่หลายประเทศในยุโรปกำลังเผชิญกับเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ในวันศุกร์(26พ.ย.) ประกาศปิดบาร์ยามค่ำคืน ร้านอาหารและห้างร้านต่างๆเกือบทั้งหมด ในความพยายามตัดวงจรการแพร่ระบาด หลังเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงทุบสถิติกำลังก่อภาระหนักอึ้งแก่ระบบสาธารณสุข
(ที่มา:รอยเตอร์)
