ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าเฉลี่ยสัปดาห์ที่แล้วขยับขึ้นเป็น 92,800 คนต่อวัน แต่ เจฟฟ์ ไซเอนต์ส ผู้ประสานงานเรื่องโควิด-19 ของทำเนียบขาว ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ หรือชัตดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาด และจะพึ่งพิงเครื่องมืออื่นๆ แทน
"เราไม่ได้มุ่งหน้าไปในทิศทางนั้น เรามีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะเร่งเส้นทางออกจากโรคระบาดใหญ่นี้ นั่นคือการเข้าถึงวัคซีนในวงกว้าง เข็มกระตุ้น ฉีดวัคซีนแก่เด็ก และการรักษาต่างๆ" ไซเอนต์สบอกกับผู้สื่อข่าว ระหว่างแถลงสรุปที่ทำเนียบขาว "เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส โดยไม่จำเป็นต้องชัตดาวน์เศรษฐกิจของเราแต่อย่างใด"
คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ ได้ขยายขอบเขตผู้มีสิทธิฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 สู่ประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคนเมื่อวันศุกร์ (19 พ.ย.) และนับตั้งแต่นั้นมีประชาชนเข้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว 3 ล้านคน ไซเอนต์สระบุ
"ในข้อเท็จจริงคือ เพียงแค่วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราฉีดเข็มกระตุ้นเข้าสู่แขนของประชาชน 3 ล้านคน ฉีดเข็มกระตุ้น 1 ล้านคนต่อวัน" เขากล่าว "อย่าล่าช้า เข้ารับเข็มกระตุ้นของคุณ เพราะคุณจะสามารถเสริมการป้องกันโควิด ในขณะที่เรากำลังเข้าสู่ฤดูหนาว"
เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ระบุในถ้อยแถลงแยกกัน ว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ ยังไม่แนะนำให้ล็อกดาวน์และกำหนดข้อจำกัดต่างๆ ทางเศรษฐกิจเพื่อควบคุมเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดใหญ่อีกครั้ง โดยออสเตรียหวนคืนสู่มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ เกิดจลาจลต่อต้านการล็อกดาวน์บางส่วนตามเมืองต่างๆ ทั่วเนเธอร์แลนด์ และหลายประเทศต้องกำหนดข้อจำกัดอันเข้มข้นต่างๆ สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ในสหรัฐฯ แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ (ซีดีซี) เผยว่า ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเคสโควิด-19 รอบ 7 วันในสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วถึง 18% เป็น 92,8000 คนต่อวัน
จำนวนผู้ป่วยหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6% เป็นเฉลี่ยแล้ว 5,600 คนต่อวัน และค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ราวๆ 1,000 รายต่อวัน
จากการนับของรอยเตอร์พบว่า จนถึงวันอาทิตย์ (21 พ.ย.) โควิด-19 เข่นฆ่าชีวิตผู้คนในสหรัฐฯ ไปแล้ว 776,188 ราย
แพทย์หญิงวาเลนสกี ระบุด้วยว่า ในบรรดาผู้มีสิทธิฉีดวัคซีน มีประชากรวัยผู้ใหญ่สหรัฐฯ ราว 47 ล้านคน และวัยรุ่นกว่า 12 ล้านคน ยังคงฉีดวัคซีนไม่ครบเข็ม
(ที่มา : รอยเตอร์)