ฝรั่งเศสรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันมากกว่า 20,000 คนในวันพุธ (17 พ.ย.) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ในขณะที่การแพร่ระบาดระลอก 5 ของโรคระบาดใหญ่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว
กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 20,294 รายในวันพุธ (17 พ.ย.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศเพิ่มเป็น 7.33 ล้านคน และค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รอบ 7 วัน พุ่งขึ้นเหนือระดับ 12,400 คนต่อวัน
อัตราอุบัติการณ์โควิด-19 ของฝรั่งเศส หรือจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 129 รายต่อประชากร 100,000 คน แต่ยังคงต่ำกว่าบรรดาประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายค่อนข้างมาก ในนั้นรวมถึงเยอรมนี สหราชอาณาจักรและเบลเยียม ซึ่งมีอัตราอุบัติการณ์สูงกว่าฝรั่งเศสหลายเท่าตัว
จำนวนผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ของฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 10% และถือเป็นการเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน อยู่ที่ 7,663 ราย และจำนวนคนไข้ที่รักษาตัวในห้องไอซียูเพิ่มเป็น 1,300 คน
นอกจากนี้แล้ว ฝรั่งเศสยังรายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 56 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นมากกว่า 118,000 คน
กาเบรียล อัตตาล โฆษกรัฐบาลกล่าวก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ระบุว่า ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอก 5 แต่ระบุว่า ณ ตอนนี้จะยังไม่มีการกำหนดข้อจำกัดต่างๆ เพิ่มเติม โดยรัฐบาลหวังว่าอัตราการฉีดวัคซนระดับสูงจะช่วยจำกัดจำนวนผู้ติดเชื้อที่ป่วยหนักจนถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ฌอง-ฟรองซัวส์ เดลเฟรซซี ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ระดับสูงของรัฐบาลฝรั่งเศส บอกในวันพุธ (17 พ.ย.) เช่นกันว่า เจ้าหน้าที่อาจร้องขอให้บริษัทต่างๆ หันกลับมาใช้มาตรการทำงานจากที่บ้านมากขึ้นอีกครั้ง
(ที่มา : รอยเตอร์)