นับตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมเป็นต้นไป คนไข้โควิด-19 ทุกคนที่ "เลือก" ไม่ฉีดวัคซีน จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลของตนเอง หากว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาการรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆหรือสถานรักษาโควิด-19 ทั้งหลาย จากคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เมื่อวันจันทร์(8พ.ย.)
ปัจจุบันรัฐบาลเป็นผู้ออกค่ารักษาพยาบาลเคสผู้ป่วยโควิด-19 เต็มจำนวนแก่ชาวสิงคโปร์ทุกคน ผู้มีถิ่นพักอาศัยถาวรและผู้ถือพาสปอร์ตระยะยาว ยกเว้นแต่ผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวกไม่นานหลังเดินทางกลับมาจากต่างแดน
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า "ปัจจุบัน บุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีนคิดเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ของคนไข้ที่จำเป็นต้องรักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก(ไอซียู) และก่อความตึงเครียดอย่างไม่พอเหมาะพอควรแก่ทรัพยากรด้านสาธารณสุขของเรา"
กฎระเบียบใหม่นี้จะใช้กับคนไข้โควิด-19 ที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีน แต่เลือกที่จะไม่ฉีด
ส่วนบุคคลที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบ รัฐบาลจะออกค่ารักษาพยาบาลให้คนกลุ่มนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม เพื่อเปิดทางให้พวกเขามีเวลาฉีดวัคซีนครบเข็ม
ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุต่อว่าสำหรับกลุ่มคนที่ยังไม่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีน ในนั้นรวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีหรือคนไข้ที่ไม่มีสิทธิ์สืบเนื่องจากประเด็นทางการแพทย์ รัฐบาลจะยังคงออกค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 แก่พวกเขาเต็มจำนวน
จากเงื่อนไขดังกล่าว ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า รัฐบาลสิงคโปร์จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 เต็มจำนวน เฉพาะกับพลเมืองชาวสิงคโปร์ ผู้มีถิ่นพักอาศัยถาวรและผู้ถือพาสปอร์ตระยะยาว ที่ฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วเท่านั้้น และไม่ได้เดินทางไปประเทศอื่นๆเมื่อไม่นาน
ออง เย คุง รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่าโรงพยาบาลต่างๆก็ไม่อยากจะโยนภาระค่ารักษาพยาบาลให้คนไข้โควิด-19 ที่เลือกจะไม่ฉีดวัคซีน "แต่เราจำเป็นต้องส่งสารอันสำคัญนี้เพื่อเร่งเร้าทุกคนให้ฉีดวัคซีน หากคุณมีสิทธิ์เข้ารับวัคซีน" เขากล่าว
(ที่มา:ชาแนลนิวส์เอเชีย)