เอพี – องค์การอนามัยโลก WHO เปิดเผยเมื่อวานนี้(4 พ.ย)ว่า ยุโรปมีเคสโควิด-19 เพิ่มมากกว่า 50% ในเดือนที่ผ่านมาและทำให้ยุโรปกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดรอบใหม่ถึงแม้ว่าจะมีวัคซีนโควิด-19อย่างเพียงพอก็ตาม คาดอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงถึง 500,000 คนภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(4 พ.ย)ว่า ดร.ไมเคิล ไรอัน (Michael Ryan)ประจำอุบัติใหม่ขององค์การอนามัยโลก WHO กล่าวในงานแถลงข่าวสั้นในวันพฤหัสบดี(4)ว่า “มีจำนวนวัคซีนมากมายอย่างเพียงพอแต่จำนวนการรับวัคซีนนั้นยังไม่มากเท่า”
พร้อมกันนี้ไรอันได้ออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุโรปเร่งจัดการให้การให้ภูมิคุ้มกันทางวัคซีนให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อลดช่องว่างแต่อย่างไรก็ตามพบว่าผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก WHO ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส กล่าวว่า ประเทศที่มีภูมิคุ้มกันทางโควิด-19มากกว่า 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมดควรที่จะหยุด และบริจาควัคซีนโควิด-19เหล่านั้นให้กับชาติที่กำลังพัฒนาเพื่อที่จะให้ประชาชนในประเทศเหล่านั้นได้รับวัคซีนโควิด-19โดสแรก
“ไม่สมควรที่จะมีการแจกวัคซีนเข็มกระตุ้นอีกต่อไปเว้นไว้แต่กรณีในกลุ่มคนที่มีปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน”
ทั้งนี้พบว่าประเทศต่างๆทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 60 ประเทศได้เริ่มให้วัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชาชนของตัวเองเพื่อต่อสู้กับระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงในการเตรียมความพร้อมในหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงที่มีการคาดว่าระลอกการระบาดใหม่กำลังจะเกิดขึ้น
สำหรับในสหรัฐฯกลุ่มประชากรเด็กอายุ 5 ปี -11 ปีจะเริ่มต้นรับวัคซีนโควิด-19ตั้งแต่สัปดาห์นี้หลังจากเจ้าหน้าที่เล็งเห็นประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง
เมื่อช่วงต้นวันของวานนี้(4)ผู้อำนวยการ WHO ประจำภูมิภาค 53 ชาติของยุโรป ดร. ฮานส์ คลุก( Dr. Hans Kluge) กล่าวว่า สถานการณ์ที่มีการเพิ่มมากขึ้นของเคสโควิด-19นั้นเป็นสิ่งที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
“ยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการระบาดรอบใหม่ซึ่งเราเคยเป็นมาก่อนเมื่อ 1 ปีก่อนหน้า” คลุกกล่าวพร้อมกันนี้เขากล่าวเตือนว่า อัตราการรักษาพยาบาลโรคโควิด-19มีอัตตราเพิ่มสูงมากขึ้นกว่า 2 เท่าในสัปาดาห์ที่แล้ว
และเขายังคาดการณ์ต่อจากสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ว่า ที่ภูมิภาคยุโรปอาจจะได้เห็นตัวเลขการเสียชีวิตจากโควิด-19ถึง 500,000 รายภายในกุมภาพันธ์ที่จะถึง
WHO ประจำภูมิภาคยุโรปที่มีขอบเขตอาณาบริเวณไปไกลทางตะวันออกถึงอดีตสหภาพยุโรปในเอเชียกลางพบว่ามีตัวเลขเกือบ 1.8 ล้านคนสำหรับเคสใหม่ของแต่ละสัปดาห์ เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นราว 6% จากสัปดาห์ก่อนหน้า และอัตราตัวเลขการเสียชีวิตอยู่ที่ 24,000 คนต่อสัปดาห์ สูงขึ้น 12%
ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกชี้ไปว่า ประเทศต่างๆในภูมิภาคมีระดับการแจกวัคซีนโควิด-19ให้กับประชาชนที่ต่างกันออกไป และทั่วทั้งภูมิภาคพบว่าโดยเฉลี่ยราว 47% ของทั้งหมดจะได้รับวัคซีนโควิด-19ครบโดส และมีเพียงแค่ 8 ประเทศมีประชากร 70% ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19ครบ
การเพิ่มอัตราการติดเชื้อในยุโรปคิดเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันที่มีการเพิ่มจำนวนเคสใหม่ทั่วทั้งภูมิภาคและกลายเป็นภูมิภาคเดียวของโลกที่ยังคงมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มอยู่ โดยอัตราการติดเชื้อสูงสุดในยุโรปคิดเป็น 192 เคสใหม่ต่อทุก 100,000 คน
อันเดิร์ส เทกเนลล์ (Anders Tegnell หัวหน้านักระบาดวิทยาของสวีเดน )กล่าวแสดงความคิดเห็นวานนี้(4)ว่า “เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเรากำลังอยู่ในการระบาดระลอกใหม่” และเสริมต่อว่า “การระบาดที่เพิ่มมากขึ้นอยู่ทั่วทั้งภูมิภาคยุโรป”
ทั้งนี้พบว่าไม่กี่ประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกเห็นจำนวนตัวเลขเคสใหม่เพิ่มขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในการแถลงข่าวทางออนไลน์ของสำนักงานยาแห่งยุโรป EMA (European Medicines Agency)ที่มีฐานอยู่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ พบว่าทางเจ้าหน้าที่เร่งให้ประชาชนออกไปรับวัคซีนโควิด-19
โดย เฟอร์กุส สวีนนีย์(Fergus Sweeney) เจ้าหน้าที่สำนักงานยายุโรป EMA ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของการต้องรับวัคซีนโควิด-19หรือการต้องได้รับวัคซีนจนครบโดสและยอมรับว่า สถานการณ์การระบาดโควิด-19ในยุโรปนั้นน่าวิตกจากการที่ในเวลานี้ยุโรปกำลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาว