ซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกตั้งเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนเหลือศูนย์ภายในปี 2060 ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของประเทศ ระบุในวันเสาร์ (23) ไม่กี่วันก่อนการประชุมซัมมิทสภาพอากาศโลก COP26
ราชอาณาจักรแห่งนี้ หนึ่งในผู้ปล่อยมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุว่า พวกเขาจะมีส่วนร่วมกับทั้งโลกลดการปล่อยแก๊สมีเทนลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030
"ข้าพเจ้าขอประกาศเป้าหมายของซาอุดีอาระเบียในวันนี้ที่จะลดการปล่อยมลพิษให้เหลือศูนย์ภายในปี 2060 ด้วยแนวทางเศรษฐกิจคาร์บอนหมุนเวียนของเรา" มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ตรัสในถ้อยแถลงที่การประชุม Saudi Green Initiative
"ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีที่ได้เริ่มต้นหลายๆ โครงการริเริ่มในภาคพลังงานที่จะทำให้การปล่อยแก๊สคาร์บอนลดลง 278 ล้านตันต่อปีภายในปี 2030 เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากเป้าหมายที่เคยประกาศไปแล้วที่ประมาณ 130 ล้านตันต่อปี" พระองค์ ตรัส
"เรายังจะประกาศการเข้าร่วมคำมั่นลดแก๊สมีเทนโลกของราชอารณาจักรอีกด้วย" พระองค์ ตรัส
ถ้อยแถลง ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะ "ช่วยลดการปล่อยแก๊สมีเทนทั่วโลกลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 ในฐานะส่วนหนึ่งของพันธกิจขับเคลื่อนอนาคตที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า"
ประกาศดังกล่าวออกมาหนึ่งวันหลังจากเลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส กล่าวว่า สถานการณ์สภาพอากาศในปัจจุบันเป็น "ตั๋วเที่ยวเดียวสู่ความหายนะ" และย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องไม่ให้เกิดความล้มเหลวในการประชุมสภาพอากาศ COP26 ในกลาสโกว์
การประชุมที่จะจัดระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 12 พฤศจิกายนในสกอตแลนด์ถูกมองว่าเป็นย่างก้าวสำคัญในการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษทั่วโลกเพื่อชะลอสภาวะโลกร้อน
เมื่อเดือนมีนาคม ซาอุดีอาระเบียประกาศโครงการเอาชนะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศและลดการปล่อบแก๊สคาร์บอน รวมทั้งแผนปลูกต้นไม้หลายพันล้านต้นในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
ในเวลานั้น มกุฎราชกุมาร ตรัสว่า ซาอุดีอาระเบียต้องการที่จะลดการปล่อยมลพิษด้วยการผลิตพลังงานครึ่งหนึ่งจากทรัพยากรหมุนเวียนภายในปี 2030