คณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำแนะนำในวันจันทร์ (11 ต.ค.) บุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติจาก WHO นอกจากนี้แล้วยังระบุด้วยว่าผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มของจีน ก็ควรได้รับเข็มที่ 3 เพิ่มเติมเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก (Strategic Advisory Group of Experts on Immunization : SAGE) เน้นย้ำว่าพวกเขาไม่แนะนำฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประชาชนทั่วไป แม้บางประเทศได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว
องค์การอนามัยโลกต้องการให้พักฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประชาชนทั่วไปไปจนกระทั่งสิ้นปี เพื่อเป้าหมายฉีดวัคซีนเข็มแรกแก่ประชาชนในประเทศต่างๆ หลายสิบประเทศที่ขาดแคลนวัคซีนเสียก่อน
หน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้วางเป้าหมายอยากเห็นทุกประเทศทั่วโลกฉีดวัคซีนประชากรของตนเองอย่างน้อยๆ 10% ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม มีถึง 56 ประเทศที่พลาดเป้าหมายดังกล่าว ผิดกับบรรดาชาติรายได้สูงซึ่งมีเกือบ 90% ที่ทำได้ตามเป้า
คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลกระบุว่า จะมีการทบทวนประเด็นฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่บุคคลทั่วไปในวันที่ 11 กันยายน
ปัจจุบัน มีวัคซีนโควิด-19 หลายตัวที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอนามัยโลกสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ประกอบด้วย ของไฟเซอร์-ไบออนเทค จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โมเดอร์นา ซิโนฟาร์ม ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า เกือบทั้งหมดเป็นวัคซีน 2 เข็ม ยกเว้นของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีนของภารัต ไบโอเทค แห่งอินเดียหรือไม่
คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก ได้จัดการประชุม 4 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อทบทวนข่าวสารและข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด-19 และโรคอื่นๆ
ทางกลุ่มระบุในถ้อยแถลงว่า "SAGE แนะนำบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอปานกลางถึงรุนแรง ควรรับเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 ตัวใดก็ตามจากทั้งหมดที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติ คนกลุ่มนี้ดูเหมือนตอบสนองไม่เพียงพอต่อวัคซีน ตามหลังการฉีดวัคซีนเบื้องต้นและยังคงเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด-19 อาการรุนแรง"
เคท โอไบรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิคุ้มกัน วัคซีนและชีววิทยาขององค์การอนามัยโลก บอกว่า เวลานี้วัคซีนเข็มกระตุ้นควรถูกพิจารณาในฐานะแนวทางสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโคโรนาโดยปกติสำหรับคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งต้องฉีดหลังเข็ม 2 ราว 1 ถึง 3 เดือน
นอกจากนี้แล้ว ทางคณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก ยังระบุด้วยว่า สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มครบเข็มแล้ว ควรมีการฉีดเข็ม 3 วัคซีนตัวเดิมให้บุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม สามารถพิจารณาให้วัคซีนต่างยี่ห้อ บนพื้นฐานดุลพินิจเกี่ยวกับเสบียงวัคซีนและการเข้าถึง
คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลกเน้นว่าเมื่อครั้งนำคะแนะนำนี้ไปปฏิบัติ ประเทศต่างๆ ควรวางเป้าหมายในเบื้องต้นคือฉีดวัคซีนเข็ม 2 แก่ประชาชนให้มากที่สุดแล้ว และหลังจากนั้นค่อยฉีดเข็ม 3 ซึ่งควรเริ่มในกลุ่มคนอายุสูงสุด
"เรามีหลักฐานว่าการป้องกันนั้นถูกจำกัดยิ่งขึ้นในหมู่ประชากรสูงวัย โดยเฉพาะในคนสูงอายุมากๆ" โจอาชิม ฮอมบัค เลขาธิการคณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลกกล่าว
จากข้อมูลของเอเอฟพีพบว่า มีอยู่ 69 ประเทศที่ใช้วัคซีนชิโนฟาร์ม และมี 36 ประเทศที่ใช้วัคซีนซิโนแวค โดยนอกเหนือจากจีนแล้ว แอลจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย ปากีสถาน และฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในหลายๆ ชาติที่ใช้วัคซีนทั้ง 2 ตัว
อนึ่งข้อมูลในคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับวัคซีนซิโนฟาร์มและซิโนแวค ส่วนใหญ่แล้วมาจากผลการศึกษาต่างๆ ในละตินอเมริกา จากการเปิดเผยของอเลฉันโดร คราวิโอโต ประธานคณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก
(ที่มา : เอเอฟพี)