ราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 2% ในวันพุธ (6 ต.ค.) ขยับลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังพบคลังปิโตรเลียมสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นผิดคาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก สภาคองเกรสมีแนวโน้มประนีประนอมขยายเพนดานหนี้ของประเทศ ขณะที่ทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (6 ต.ค.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่คาดหมายว่าจะลดลง 418,000 บาร์เรล ส่วนสต๊อกเบนซินก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะที่คลังสำรองน้ำมันกลั่นลดลงเพียงเล็กน้อย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (6 ต.ค.) แกว่งตัวปิดบวกในกรอบแคบๆ หลังซื้อขายในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน หลังสมาชิกรีพับลิกันเสนอประนีประนอมในการเจรจาเดิมพันสูงเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้ของอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 102.32 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,416.99 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.83 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,363.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 68.08 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,501.91 จุด
มิตช์ แม็คคอนเนลล์ แกนนำวุฒิสมาชิกเสียงข้างน้อย เผยว่า รีพับลิกันจะเปิดทางให้พรรคเดโมแครตลงมติขยายเพดานหนี้ชั่วคราว ว่ารัฐบาลสามารถกู้เงินได้มากน้อยแค่ไหน
ทางตันของการเจรจาเพิ่มความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจผินัดชำระหนี้ในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ข้อเสนอของ แม็คคอนเนลล์ เป็นการผัดผ่อนปัญหาไปจนถึงเดือนธันวาคม เปิดทางให้เดโมแครต พรรครัฐบาล เตรียมการสำหรับหาทางออกในระยะยาว
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (6 ต.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ ปิดที่ 1,761.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)