พลเมืองแคนาดา 2 คนซึ่งถูกจับและดำเนินคดีในจีนฐานจารกรรมได้รับการปล่อยตัวแล้วเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ภายหลังจากที่ผู้บริหารระดับสูง “หัวเว่ย” บรรลุข้อตกลงกับอัยการสหรัฐฯ และได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากแคนาดากลับประเทศจีน
ไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูตแคนาดา และ ไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจชาวแคนาดา ถูกตำรวจจีนจับกุมและนำตัวไปคุมขังฐานเป็นสายลับ เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ “เมิ่ง หว่านโจว” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ถูกทางการแคนาดาควบคุมตัวที่สนามบินแวนคูเวอร์เมื่อปลายปี 2018 ตามใบสั่งของสหรัฐฯ ในสถานการณ์ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการ “แก้เผ็ด”
ล่าสุด นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา เผยกับสื่อมวลชนว่า สองหนุ่ม “ไมเคิล” ซึ่งสื่อตะวันตกให้ฉายาว่าเป็นเหยื่อการจับตัวประกันทางการทูต (hostage diplomacy) “ได้เดินทางออกจากน่านฟ้าจีน และอยู่ระหว่างมุ่งหน้ากลับบ้าน” โดยคาดว่าเครื่องบินจะลงจอดที่แคนาดาภายในวันเสาร์ (25)
แอนนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริการู้สึก “พอใจ” กับท่าทีของปักกิ่ง และเห็นพ้องกับประชาคมโลกที่ต่างก็ชื่นชมการตัดสินใจของสาธารณรัฐประชาชนจีนในการปล่อยตัวชาวแคนาดาทั้ง 2 คน
คอฟริก และสปาวอร์ ถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดย สปาวอร์ นั้นถูกศาลจีนตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 ปี แต่ในส่วนของ คอฟริก นั้นยังไม่มีคำพิพากษาลงโทษ
นายกฯ แคนาดาเคยออกมาประณามการตัดสินลงโทษ สปาวอร์ ว่าเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้ และไม่เป็นธรรม” พร้อมชี้ว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฝ่ายจีน “กุ” ขึ้นมาเองทั้งสิ้น
ทรูโด กล่าววานนี้ (24) ว่า “พลเมืองทั้ง 2 คนได้ผ่านความทุกข์ทรมานอย่างสุดที่กว่า ตลอด 1,000 วันที่ผ่านมา พวกเขาได้แสดงออกซึ่งความเข้มแข็ง ความมานะอุตสาหะ ความยืดหยุ่น และความงดงาม... เราทุกคนต่างได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขา”
จีนไม่อนุญาตให้นักการทูตแคนาดาเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนคดีของ สปาวอร์ ที่ศาลในเมืองตานตง ขณะที่ชายแคนาดาทั้ง 2 คนแทบไม่มีโอกาสติดต่อกับโลกภายนอกตลอดระยะเวลาที่โดนคุมขัง
ปักกิ่งอ้างว่า การจับกุมและดำเนินคดีกับชาวแคนาดาทั้งคู่เป็น “ไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” ในขณะที่คดีของ เมิ่ง นั้น “เป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ”
ที่มา : เอเอฟพี
