กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นบอกพลเมืองของตนในวันนี้ (13 ก.ย.) ว่า ให้อยู่ห่างๆ จากพวกสถานที่ทางศาสนาและฝูงชนใน 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยเตือนว่าอาจจะเกิดเหตุโจมตี
ทางกระทรวงระบุว่าได้รับข้อมูลข่าวสารว่า “มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น เป็นต้นว่า การโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย”
คำแนะนำนี้มุ่งไปที่พลเมืองญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า และไทย
ปรากฏว่าคำแนะนำคราวนี้สร้างความงุนงงให้แก่ชาติเหล่านี้จำนวนมาก โดยต่างบอกว่าพวกเขาไม่ได้รู้เลยว่ามีภัยคุกคามดังกล่าว หรือได้รับรายละเอียดจากฝ่ายญี่ปุ่นในเรื่องเกี่ยวกับแหล่งข่าวที่มาของข้อมูลข่าวสารนี้
ทางด้านอธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย ธานี แสงรัตน์ แถลงว่า ญี่ปุ่นไม่ได้เปิดเผยต้นตอที่มาของคำแนะนำที่ให้แก่พลเมืองของตนเองนี้ รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในไทยก็ไม่ได้มีรายละเอียดเพิ่มเติม นอกจากบอกว่า เรื่องนี้ “ไม่ได้มุ่งเจาะจงเฉพาะประเทศไทย”
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทางหน่วยงานความมั่นคงของไทยไม่ได้มีข้อมูลข่าวสารใดๆ ของตนเองในเรื่องที่อาจมีภัยคุกคามเช่นนี้
ทำนองเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์แถลงว่า ไม่ได้รู้ข้อมูลข่าวสารใดๆ ในเรื่องเกี่ยวกับการยกระดับภัยคุกคาม ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ติวกู ไฟซาสยาห์ ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการส่งคำแนะนำใดๆ ไปถึงพลเมืองชาวญี่ปุ่นในแดนอิเหนา
ในคำแนะนำสั้นๆ ฉบับนี้ ญี่ปุ่นเร่งเร้าให้พลเมืองของตนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดในการรับฟังข่าวและข้อมูลข่าวสารจากทางท้องถิ่น และให้ระมัดระวังตัว “ไปสักระยะหนึ่ง” แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลาแน่นอนหรือให้รายละเอียดอย่างอื่นๆ
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว ก็ปฏิเสธที่จะระบุแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสารที่ตนได้รับ หรือให้คำตอบว่าทางกระทรวงได้แลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูลข่าวสารนี้กับประเทศอื่นๆ หรือไม่
โดยทางกระทรวงบอกเพียงว่า คำแนะนำนี้ได้จัดส่งไปให้แก่สถานเอกอัครราชทูตของตนในประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งต่อให้พลเมืองชาวญี่ปุ่นได้ทราบ
(ที่มา : สำนักข่าวเอพี)