เอเจนซีส์ – ผู้นำเผยนิวซีแลนด์พยายามมาหลายปีเพื่อเนรเทศผู้ก่อการร้ายที่ก่อเหตุไล่แทงคนในซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองโอ๊คแลนด์จนถูกตำรวจที่เฝ้าจับตาวิสามัญ พร้อมจี้สภาเร่งผ่านกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับใหม่เพื่อตัดไฟตั้งแต่ผู้ก่อการร้ายวางแผนโจมตี
อาเหม็ด อาทิล โมฮัมเหม็ด ซัมซูดีน วัย 32 ปีจากบังคลาเทศ พยายามต่อสู้เพื่อรักษาสถานะผู้ลี้ภัยในนิวซีแลนด์ตอนที่ก่อเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ระบุว่า ได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
ผู้พิพากษาศาลนิวซีแลนด์เพิ่งอนุญาตให้เปิดเผยชื่อซัมซูดีนเมื่อคืนวันเสาร์ (4 ก.ย.) เนื่องจากกฎหมายของประเทศนี้ห้ามเปิดเผยตัวตนและสถานะการย้ายถิ่นของผู้ลี้ภัย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แดนกีวีพยายามหาทางควบคุมตัวซัมซูดีนในเรือนจำนับจากกรณีการขอลี้ภัยถูกยกเลิก แต่ไม่สามารถหาเหตุผลทางกฎหมายมาสนับสนุนได้ จึงต้องใช้วิธีส่งตำรวจ 30 นายไปเฝ้าจับตาตลอด 24 ชั่วโมงมากว่า 50 วัน ก่อนที่ซัมซูดีนจะคว้ามีดบนชั้นในซูเปอร์มาร์เก็ตไล่แทงลูกค้าคนอื่นๆ ห่างจากตำรวจนอกเครื่องแบบที่เฝ้าติดตามอยู่แค่ไม่กี่เมตร
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน ซึ่ง 3 ใน 5 คนที่ถูกแทงยังมีอาการสาหัสเมื่อวันเสาร์ อีกทั้งยังเป็นการเตือนความจำชาวนิวซีแลนด์ถึงการโจมตีของผู้อยู่ใต้ลัทธิคนขาวเป็นใหญ่จากออสเตรเลียในปี 2019 ต่อมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครส์เชิร์ชที่ทำให้ชาวมุสลิมเสียชีวิต 51 คน
นอกจากนี้การโจมตีเมื่อวันศุกร์ยังจุดชนวนการโต้เถียงครั้งใหม่เกี่ยวกับการเสนอเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่ขณะนี้อยู่ในสภา เพื่อให้กำหนดว่า เพียงแค่การวางแผนการก่อการร้ายก็ถือเป็นการก่ออาชญากรรม
ทั้งนี้ ซัมซูดีนเดินทางถึงนิวซีแลนด์ในเดือนตุลาคม 2011 ขณะอายุ 22 ปี โดยถือวีซ่านักศึกษา หลังจากนั้นไม่นานเขาทำเรื่องขอสถานะผู้ลี้ภัยแต่ได้รับการปฏิเสธในปี 2012 จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อย่างไรก็ดี เขาอุทธรณ์ต่อศาลตรวจคนเข้าเมืองและคุ้มครองและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในเดือนธันวาคม 2013
3 ปีต่อมาเขาถูกตำรวจและหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของนิวซีแลนด์จับตาหลังจากแสดงการสนับสนุนการก่อการร้าย วิดีโอเกี่ยวกับสงคราม และความคิดเห็นแนวสุดโต่งบนเฟซบุ๊ก และเคยถูกตำรวจเรียกไปซักถาม
เดือนพฤษภาคม 2017 ซัมซูดีนถูกจับในท่าอากาศยานนานาชาติโอ๊คแลนด์ เนื่องจากตำรวจเชื่อว่า เขากำลังจะเดินทางไปซีเรีย อีกทั้งยังพบโฆษณาชวนเชื่อของไอเอสและมีดล่าสัตว์ในอพาร์ตเมนต์ของเขา อย่างไรก็ดี ตำรวจอนุญาตให้ซัมซูดีนประกันตัวออกมา ทว่าระหว่างนั้น เขาซื้อมีดและถูกตำรวจจับอีกครั้ง รวมทั้งยังพบข้อมูลเนื้อหาเกี่ยวกับลัทธิสุดโต่งเพิ่มเติม
ทางการรู้ว่า ซัมซูดีนต้องการก่อการโจมตี ทว่า กฎหมายนิวซีแลนด์ไม่ถือว่า การวางแผนก่อการร้ายเป็นอาชญากรรม อาร์เดิร์นเผยว่า เมื่อวันศุกร์รัฐบาลขอให้สภาเร่งผ่านกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับใหม่และเธอหวังว่า จะได้รับการอนุมัติภายในปลายเดือนนี้
ปี 2020 ซัมซูดีนถูกควบคุมตัวมาแล้ว 3 ปี และถูกตัดสินว่า มีความผิดจากกรณีโฆษณาชวนเชื่อของไอเอสและถูกตัดสินเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาให้อยู่ภายใต้การจับตาของตำรวจนาน 1 ปี รวมถึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ อาทิ ห้ามใช้อินเทอร์เน็ต
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 สถานะผู้ลี้ภัยของซัมซูดีนถูกยกเลิกเนื่องจากยื่นเอกสารปลอมและมีคำสั่งให้ส่งตัวกลับประเทศ เขาอุทธรณ์คำสั่งนี้ต่อศาลตรวจคนเข้าเมืองและคุ้มครอง ทว่า ยังไม่สามารถดำเนินการได้จนกระทั่งได้ข้อสรุปคดีอาญาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตระหนักดีว่า ซัมซูดีนเป็นภัยต่อสังคมจึงพยายามหาช่องทางใช้กฎหมายคนเข้าเมืองเพื่อควบคุมตัวบุคคลผู้นี้ระหว่างการพิจารณาคำอุทธรณ์ ทว่า ได้รับการปฏิเสธจากหน่วยงานให้คำปรึกษาทางกฎหมายว่า จะทำได้ต่อเมื่อบุคคลผู้นั้นได้รับการตัดสินให้เนรเทศ นอกจากนั้นมีแนวโน้มว่า ซัมซูดีนเข้าข่าย “บุคคลที่ได้รับการคุ้มครอง” เนื่องจากเขาและครอบครัวระบุเหตุผลขณในการขอลี้ภัยว่า ถูกเลือกปฏิบัติทางการเมืองและถูกทำร้ายร่างกายในศรีลังกาก่อนเดินทางไปยังนิวซีแลนด์
ตามกฎหมายของนิวซีแลนด์นั้น ห้ามเนรเทศผู้ที่ได้รับการคุ้มครอง ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ซัมซูดีนถูกปล่อยจากเรือนจำ ตำรวจจึงทำได้แค่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเขานับจากนั้น
อาร์เดิร์นทิ้งท้ายว่า จากไทม์ไลน์เหล่านี้จะเห็นได้ว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพยายามมาตั้งแต่แรกและใช้เครื่องมือทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อปกป้องประชาชนที่บริสุทธิ์ด้วยการเนรเทศบุคคลผู้นี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
แม้ศาลอนุญาตให้เปิดเผยชื่อได้ แต่อาร์เดิร์นยืนยันว่า จะไม่เอ่ยชื่อผู้ก่อการร้ายผู้นี้ ซึ่งเป็นนโยบายที่เธอใช้หลังการโจมตีในไครส์เชิร์ช เพื่อไม่ให้บุคคลดังกล่าวฮึกเหิมว่า กลายเป็นคนดังจากการก่อเหตุรุนแรง