ราคาน้ำมันขยับขึ้น 3% ในวันอังคาร (24 ส.ค.) จากเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะของเม็กซิโก และสหรัฐฯ อนุมัติวัคซีนโควิด-19 เต็มรูปแบบ ปัจจัยหลังนี้ดันวอลล์สตรีทปิดบวก ขณะที่ทองคำยังสามารถทรงตัวอยู่ที่ระดับเหนือ 1,800 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เกิดเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งเม็กซิโกในวันอาทิตย์ (22 ส.ค.) ส่งผลให้กำลังผลิตน้ำมันของ "พีเม็กซ์" รัฐวิสาหกิจลดลงราว 25% และพนักงานเสียชีวิต 5 ราย
นอกจากนี้แล้ว ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มในแง่บวกเกี่ยวกับการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (23 ส.ค.) เห็นชอบวัคซีน 2 เข็มของไฟเซอร์/ไบออนเทคเต็มรูปแบบ หลังจากก่อนหน้านี้อนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน
นักวิเคราะห์มองว่า ความสำเร็จของจีนในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์เดลตาก็เพิ่มความเชื่อมั่นต่ออุปสงค์ทางพลังงานเช่นกัน หลังจากตัวเลขล่าสุดจีนไม่พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นแม้แต่รายเดียว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (24 ส.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่เอสแอนด์พี500 และแนสแดค ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดีดตัวต่อเนื่อง และความเคลื่อนไหวอนุมัติใช้วัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทคเต็มรูปแบบของอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 30.55 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,366.26 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.70 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,486.23 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 77.15 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,019.80 จุด
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น นักลงทุนยังจับตาไปที่คำแถลงในวันศุกร์ (27 ส.ค.) ของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ณ ที่ประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งคาดหมายเฟดจะยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในระยะเวลาหนึ่ง แม้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายก็ตาม
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (24 ส.ค.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ ยังทรงตัวอยู่ในระดับเหนือ 1,800 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,808.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)