ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ในวันจันทร์ (23 ส.ค.) เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตัวแรกที่ผลิตภายในไต้หวัน เป็นการให้ความเห็นชอบส่วนตัว ในขณะที่เกาะแห่งนี้เริ่มดำเนินการโครงการฉีดวัคซีนผลิตเองที่ได้รับอนุมัติเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคม แม้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่เร่งรีบจนเกินไป
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงสาธารณสุขไต้หวันอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทเมดิเจน วัคซีน ไบโอโลจิกส์ คอร์ป (Medigen Vaccine Biologics Corp) ส่วนหนึ่งของแผนการอันครอบคลุมสำหรับมีการวัคซีนอย่างเพียงพอ ท่ามกลางปัญหาการส่งมอบวัคซีนล่าช้าจากบรรดาบริษัทยาระดับโลกทั้งหลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อไต้หวันและชาติอื่นๆ อีกหลายประเทศ
ไช่ เข้ารับวัคซีนเมดิเจนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่านกลางกรุงไทเป เพื่อแสดงความมั่นใจและพิสูจน์ว่าวัคซีนที่ไต้หวันผลิตเองตัวนี้มีความปลอดภัย
ประธานาธิบดีไช่ พูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ตอนที่พวกเขากำลังเตรียมฉีดวัคซีนให้เธอ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของประธานาธิบดี พร้อมกับคำตอบสั้นๆ ว่า "ไม่" หลังผู้สื่อข่าวถามว่าเธอรู้สึกกังวลหรือเปล่า
จนถึงตอนนี้มีชาวไต้หวันแล้วมากกว่า 700,000 รายที่ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนเมดิเจน ซึ่งต้องเว้นระยะห่างระหว่างเข็มแรกกับเข็มสอง 28 วัน
เมดิเจน ปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าวัคซีนของพวกเขานั้นไม่มีความปลอดภัยและเร่งรีบส่งเข้าสู่ตลาดเร็วเกินไป โดยยืนยันว่ามันมีประสิทธิภาพและผ่านการทดสอบมาเป็นอย่างดี
"เราผ่านการทดลองต่างๆ มากมาย ทุกคนเห็นแล้วว่าวัคซีนของเรามีความปลอดภัยแค่ไหน มันมีผลข้างเคียงเล็กน้อยมาก แทบไม่มีไข้และอื่นๆ ดังนั้น ผมคิดว่าทุกคนสามารถสบายใจได้" ชาร์ลส์ เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมดิเจนบอกกับรอยเตอร์
วัคซีนที่ผลิตจากการตัดต่อโปรตีน (recombinant protein vaccine) ของเมดิเจน เป็นการพัฒนาร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ และรัฐบาลไต้หวันสั่งซื้อในเบื้องต้น 5 ล้านโดส พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีใครถูกบังคับให้ฉีดวัคซีนตัวนี้
อย่างไรก็ตาม ทางพรรคก๊กมินตั๋ง พรรคฝ่ายค้านหลักของไต้หวัน ยกระดับรณรงค์ต่อต้านวัคซีนตัวนี้หนักหน่วงขึ้น โดยหนึ่งในอดีตรองประธาน หัว หลุง บิน กำลังยื่นฟ้องร้องทางกฎหมายขอให้การอนุมัติวัคซีนเมดิเจนเป็นโมฆะ แม้ถูกศาลปฏิเสธมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พรรคก๊กมินตั๋งยืนยันว่าพวกเขาสนับสนุนวัคซีนที่ผลิตเองภายในประเทศ แต่มองว่าการอนุมัติวัคซีนของเมดิเจนนั้นเร่งรีบจนเกินไป
"ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอาชีวิตและสุขภาพของประชาชนชาวไต้หวันมาเป็นหนูทดลองสีขาวในห้องปฏิบัติการ" รองประธานฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของพรรคก๊กมินตั๋งบอกกับรอยเตอร์
ปัจจุบันมีประชาชนไต้หวันราว 40% จากทั้งหมด 23.5 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยๆ 1 โดสของแอสตร้าเซนเนก้า หรือไม่ก็โมเดอร์นา แต่มีแค่ 5% เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันต่างจากประเทศอื่นๆ ในเอเชีย พวกเขาไม่เผชิญแรงกดดันให้เร่งโครงการฉีดวัคซีน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในท้องถิ่นเพียงเล็กน้อยในแต่ละวัน
(ที่มา : รอยเตอร์)
