xs
xsm
sm
md
lg

ยายทวดมะกันวัย 101 กะรัตขับเรือปร๋อ ไล่ล่าจับกุ้งล็อบสเตอร์ในมหาสมุทรแอตแลนติกหาเงินเลี้ยงชีพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คุณยายทวดเวอร์จิเนีย โอลิเวอร์ นักจับกุ้งล็อบสเตอร์วัย 101 ปี และบุตรชาย คือ คุณตาแมกซ์ วัย 78 ปี ขับเรือด้วยตนเองออกสู่น่านน้ำแอตแลนติก เพื่อหย่อนกรงดักกุ้งล็อบสเตอร์พร้อมเหยื่ออร่อยๆ 200-300 กรง ลงไปวางบนพื้นท้องมหาสมุทร แล้วทิ้งไว้หนึ่งวันจึงออกเรือไปเก็บกรงขึ้นมา ซึ่งแต่ละกรงจะมีกุ้งล็อบสเตอร์หลายตัวถูกดักอยู่ข้างในเพราะเข้าไปได้แต่ออกมาไม่เป็น ในภาพนี้เป็นช่วงที่ขับเรือบ่ายหน้ากลับสู่แผ่นดิน หลังจากที่ออกไปเก็บกรงดักกุ้งล็อบสเตอร์ตั้งแต่เช้ามืดในน่านน้ำย่านหมู่บ้านสปรู๊ซเฮด รัฐเมน สหรัฐอเมริกา เมื่อ 31 กรกฎาคม 2021 คุณยายทวดเวอร์จิเนีย มีอาชีพจับกุ้งล็อบสเตอร์บริเวณนอกชายฝั่งรัฐเมน ตั้งแต่อายุเพียง 7 ปี จวบจนบัดนี้ที่สุขภาพยังแข็งแรงดี แม้อายุอานามก้าวเลยหนึ่งศตวรรษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในเรือที่ลอยลำนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา คุณยายทวดวัย 101 ปี นาม เวอร์จิเนีย โอลิเวอร์ ชาวร็อกแลนด์ รัฐเมน ใช้นิ้วและมือที่ยังแข็งแกร่งดั่งคีมเหล็กจับกระชับก้ามมโหฬารของกุ้งล็อบสเตอร์พันธุ์ยาวซึ่งค่อนข้างลื่น และสวมแถบยางรัดก้ามนั้นปุ๊บปั๊บฉับไว ด้วยความคล่องแคล่วชำนาญที่สะสมมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยวัย 7 ปี

คุณยายทวดนักจับกุ้งมือฉมังท่านนี้เป็นผู้สูงวัยที่สุดในบรรดานักจับกุ้งขึ้นทะเบียนใบอนุญาตทั้งปวงของรัฐเมน โดยคุณยายทวดยังแข็งแรงอย่างยิ่ง แม้อายุอานามจะเกินหนึ่งศตวรรษแล้ว ทั้งนี้ นักประวัติศาสตร์หลายรายบอกว่า คุณยายทวดโอลิเวอร์อาจเป็นผู้ชราซึ่งยังแอ็กทีฟที่สูงวัยที่สุดของโลกก็เป็นได้

เมื่อทศวรรษ 1930 ซึ่งคุณยายทวดโอลิเวอร์เพิ่งเข้าสู่วงการจับกุ้งล็อบสเตอร์ไปขายนั้น ประชากรกุ้งล็อบสเตอร์หนาแน่นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในน่านน้ำนอกชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น รัฐเมน รัฐแมสซาชูเซตส์ และรัฐโรดไอแลนด์ โดยจะอาศัยอยู่บริเวณพื้นท้องมหาสมุทรที่หนาวเย็นและเต็มไปด้วยแผ่นหิน ณ ความลึกประมาณ 4-5 เมตร ดังนั้น อุตสาหกรรมการจับกุ้งล็อบสเตอร์ไปขายเป็นอาหารแสนโอชะราคาแพงลิ่วจึงเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์เปลี่ยนไป ปริมาณกุ้งที่จับได้มีจำนวนน้อยลง สถิติของกรมทรัพยากรสัตว์ทะเลแห่งรัฐเมนบันทึกเมื่อปี 2008 ว่า มีการจับกุ้งล็อบสเตอร์ได้สุทธิปีละ 31.6 ล้านกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าซื้อขายที่ 244 ล้านดอลลาร์

ปัจจุบันนี้ คุณยายทวดเวอร์จิเนีย และคุณตาแมกซ์ โอลิเวอร์ บุตรชายวัย 78 ปี ช่วยกันแล่นเรือออกจากท่าของเมืองร็อกแลนด์แห่งเทศมณฑลน็อกซ์เคาน์ตี สัปดาห์ละ 3 วัน เรือที่พา 2 แม่ลูกออกสู่น่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกมีชื่อไพเราะเฉกเช่นเดียวกับคุณยายทวด โดยอดีตสามีผู้ล่วงลับไปแล้วของคุณยายทวดเป็นผู้ตั้งให้

คุณยายทวดเวอร์จิเนีย โอลิเวอร์ นักจับกุ้งล็อบสเตอร์วัย 101 ปี ผู้ประกอบอาชีพนี้เนิ่นนานถึง 9 ทศวรรษ คุณยายทวดจินนี่จึงมีมือที่แข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง ในภาพนี้เป็นคำบอกเล่าจากเพื่อนร่วมอาชีพรุ่นหลาน คือ เดวิด คูเซนส์ นักจับกุ้งล็อบสเตอร์มีใบอนุญาตและอดีตประธานสมาคมนักจับกุ้งล็อบสเตอร์มีใบอนุญาตแห่งรัฐเมน ซึ่งบอกว่าจินนี่กับกับคุณตาแมกซ์ลูกชายสูงวัยมากกว่า 70 ปี ออกเรือไปเก็บกรงดักกุ้งวันละเป็นร้อยกรง
“ทวดกะว่าจะแล่นเรือจับกุ้งอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ ...จนกว่าจะตายล่ะค่ะ” คุณยายทวดโอลิเวอร์ ให้สัมภาษณ์แก่เอเอฟพีไว้อย่างนั้น “คนชอบมาถามทวดอยู่เรื่อยว่า ‘นี่จะแล่นเรือจับกุ้งไปอีกทำไม’ ก็ฉันอยากทำของฉันอย่างนี้อะ ทวดแก่พอจะเป็นเจ้านายตัวเองได้นี่นา”

มนุษย์หนึ่งศตวรรษท่านนี้มักถูกเรียกขานว่า คุณผู้หญิงล็อบสเตอร์ แต่เพื่อนๆ และคนสนิทจะเรียกเธอว่า จินนี่เธออยู่ในร็อกแลนด์มาตลอดทั้งชีวิตบนถนนสายเดิมตั้งแต่เกิดและลืมตาดูโลกเมื่อปี 1920

“จินนี่เค้าเจ๋งจริงครับ” กล่าวโดย เดวิด คูเซนส์ นักจับกุ้งล็อบสเตอร์มีใบอนุญาตและอดีตประธานสมาคมนักจับกุ้งล็อบสเตอร์มีใบอนุญาตแห่งรัฐเมน

“จินนี่จับล็อบสเตอร์มาตลอดเลยครับ เธออายุ 101 ปีแล้ว แต่ยังออกไปจับกุ้งทุกสัปดาห์ พวกเราเห็นเธอมาลงเรือที่นี่สัปดาห์ละ 3 วันเธอจะมาตั้งแต่เช้ามืดเสมอครับ” คูเซนส์เล่า

เรือชื่อไพเราะว่า เวอร์จิเนีย เป็นพาหนะคู่ใจที่คุณยายทวดเวอร์จิเนีย โอลิเวอร์ นักจับกุ้งล็อบสเตอร์วัย 101 ปี และบุตรชาย คือ คุณตาแมกซ์ ใช้แล่นออกสู่น่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติก
คุณยายทวดโอลิเวอร์ลุกจากที่นอนตอนตีสามครึ่ง และออกจากบ้านประมาณตีห้า บางครั้งจะมาในรถกระบะของเธอเอง บางคราวมากับรถเชฟวีปี 1956 ของคุณตาแมกซ์ แล้วลงเรือพายไซส์จิ๋ว ไปขึ้นเรือเวอร์จิเนียเพื่อออกสู่มหาสมุทร

จินนี่กับแมกซ์วางกรงดักกุ้งล็อบสเตอร์ 200-300 อันไว้ที่พื้นท้องมหาสมุทรแอตแลนติก ย่านหมู่บ้านสปรู๊ซเฮด และเมื่อได้เวลาอันเหมาะสมคุณตาแมกซ์จะใช้เครื่องกว้านสายโยงเพื่อนำกรงขึ้นมาซึ่งภายในกรงมีกุ้งล็อบสเตอร์ก้ามโตๆ หลายตัวที่เข้าไปกินเหยื่อ และติดกับค้างคาอยู่ด้านในส่วนคุณยายทวดจินนี่ใช้มือในถุงมือยางจับล็อบสเตอร์แต่ละตัวขึ้นมาวัดความยาว สวมแถบยางรัดก้ามทั้งสองข้าง และจัดวางไว้ในแท็งก์ขังกุ้ง

ในการนี้ ด้วยความทะมัดทะแมงในชุดกางเกง และรองเท้าบูตกันน้ำครึ่งแข้ง พร้อมถุงมือยาง คุณยายทวดมีหน้าที่จับกุ้งล็อบสเตอร์มาตรวจสอบทีละตัว โดยจะต้องวัดความยาวว่ามีขนาดที่ไม่เล็กเกินข้อกำหนดของกฎหมายแล้วใช้คีมพิเศษสวมแถบยางรัดก้ามกุ้งให้แน่นหนาว่าไม่มีหลุดไม่มีพลาดใดๆ

คุณยายทวดจินนี่จับตัวกุ้งล็อบสเตอร์ไว้ได้อย่างมั่นคงแม้ผิวของกุ้งมักที่จะลื่น แล้วทำการวัดความยาวว่าสามารถนำไปขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในเวลาเดียวกันคุณตาแมกซ์ผู้เป็นบุตรชายและคุมกรงดักจับกุ้งที่กว้านขึ้นจากพื้นท้องมหาสมุทร ก็ทยอยหยิบล็อบสเตอร์ออกจากกรงทีละตัว ส่งให้คุณแม่ทำภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้อง

มือซ้ายของคุณยายทวดจินนี่กุมคีมพิเศษที่เตรียมแถบยางพรักพร้อม และมือขวาอันแข็งแกร่งก็จับก้ามของกุ้งล็อบสเตอร์ให้หุบไว้อย่างมั่นคง

คุณยายทวดจินนี่นำก้ามซ้ายของกุ้งล็อบสเตอร์สอดเข้าในแถบยางตรงปลายคีมพิเศษ แล้วแถบยางก็รัดกระชับก้ามไว้อย่างแน่นหนา ละม้ายกับที่ปรากฏตรงก้ามข้างขวา กระบวนการนี้ใช้เวลาเพียง 2-3 วินาทีก็เสร็จเรียบร้อยด้วยความชำนาญของคุณยายทวด

ในขั้นตอนสุดท้าย คุณยายทวดจินนี่หย่อนกุ้งล็อบสเตอร์ลงไปในแท็งก์กักกุ้ง  จะเห็นได้ว่าสีส้มตามมาตรฐานของล็อบสเตอร์ปรากฏชัดเจนในแสงตะวัน  ก่อนที่กุ้งล็อบสเตอร์จะกลายมาเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ทรงคุณค่าเพราะสร้างรายได้ไม่ใช่น้อยๆ ให้แก่ภาคส่งออกของสหรัฐฯ นั้น  ในยุคที่สหรัฐฯ ยังเป็นอาณานิคม กุ้งล็อบสเตอร์ซึ่งแสนอร่อย มีให้จับมารับประทานกันอย่างดกดื่นในน่านน้ำต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยเป็นอาหารสำหรับคนยากจนและเป็นอาหารเลี้ยงนักโทษ  แต่ในปัจจุบัน กุ้งล็อบสเตอร์เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ โดยมีลูกค้าจำนวนมหาศาลอยู่ในประเทศจีน ซึ่งที่ผ่านมา ภายในสงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีการปรับขึ้นภาษีศุลกากรการนำเข้าล็อบสเตอร์จากสหรัฐฯ ขึ้นมา 25%
ภารกิจในส่วนที่เกี่ยวกับการจับกุ้งล็อบสเตอร์นั้น ไม่ใช่ความรับผิดชอบอย่างเดียวของคุณยายทวดจินนี่ เพราะเธอทำหน้าที่ขับเรือด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม หากหมอกลงหนา เธอจะให้ลูกชายเป็นผู้ขับเรือ

ด้วยอายุปูนนี้ สองแม่ลูกโอลิเวอร์จะออกเรือเฉพาะในสภาพอากาศที่สดใส  ซึ่งไม่เหมือนเมื่อสมัยยังหนุ่มสาวกว่านี้ ทั้งสองจะออกน่านน้ำมหาสมุทรตามกำหนดเวลาทั้งปวงไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไรก็ตาม

“แม่ออกเรือจับกุ้งเสมอครับ แม่ไม่ยอมหยุดเลย” คุณตาแมกซ์บอก

“แม่มีเรื่องต้องทำโน่นนี่ตลอดเวลา จะต้องเคลื่อนไหวเสมอ ภารกิจยุ่งทุกเมื่อครับ บางทีผมก็เหนื่อยใจแม้แค่จะนึกถึงล่ะครับ”

คุณตาแมกซ์ นักจับกุ้งล็อบสเตอร์ วัย 78 ปี ผู้เป็นบุตรชายของคุณยายทวดจินนี่ ยังแข็งแรงและกระฉับกระเฉงมากกับการเหนี่ยวเอาทุ่นลอยน้ำที่ใช้โยงกับเชือกผูกกรงดักกุ้ง ให้ขึ้นจากทะเล

เมื่อคุณตาแมกซ์เหนี่ยวทุ่นขึ้นจากน้ำแล้ว จะนำไปพันกับลูกรอกตัวใหญ่ที่ใช้ในการดึงเชือกผูกกรงดักกุ้ง

หลังจากนั้น คุณตาแมกซ์จะมัดทุ่นลอยน้ำไว้กับลูกรอกตัวเล็ก และจึงทำการเดินมอเตอร์ ซึ่งจะดึงเชือกทั้งสายขึ้นมาพันกับลูกรอกใหญ่ จนกระทั่งตัวกรงดักกุ้งโผล่พ้นน้ำขึ้นมา แล้วคุณตาแมกซ์ก็แขวนกรงไว้กับขอบของกราบเรือเพื่อทำการหยิบกุ้งล็อบสเตอร์ออกมาทีละตัว ทั้งนี้ คู่แข่งในการดักจับกุ้งล็อบสเตอร์ในรัฐเมนมีไม่มาก เพราะผู้คนรุ่นใหม่ไม่นิยมสืบทอดอาชีพนี้กันแล้ว เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้เป็นงานที่ตรากตรำและหนักหนาอย่างยิ่ง ขณะที่จำนวนกุ้งล็อบสเตอร์ที่ดักจับได้โดยเฉลี่ยจะไม่สูงนัก ส่งผลให้อัตราผลกำไรอยู่ในระดับไม่คุ้มเหนื่อย ยิ่งกว่านั้น ต้นทุนประกอบการนับวันแต่จะพุ่งสูงขึ้น ทั้งค่าเรือ ค่ากรงดักจับ ค่าเหยื่อล่อกุ้ง ค่าน้ำมันวิ่งเรือ
พอถึงช่วงท้ายปลายๆ วัน  กุ้งล็อบสเตอร์ทั้งปวงจะถูกนำไปยังสหกรณ์บ่อกุ้งล็อบสเตอร์ โดยที่ว่าการขายให้แก่สปรูซเฮดล็อบสเตอร์ปอนด์โค-ออปจะได้ราคาดีกว่าที่อื่น เพราะสหกรณ์รับซื้อในระดับขายส่ง

คุณยายทวดโอลิเวอร์ยืนยันว่าจะยังไม่ยุติอาชีพจับกุ้งล็อบสเตอร์ในเร็ววันนี้

“ทวดยังไม่อยากไปนั่งเก้าอี้เข็นค่ะ” เธอบอกอย่างนั้น

ขณะที่คนรุ่นหลานของคุณยายทวดจินนี่ ไม่สู้จะสนใจเข้าสู่อุตสาหกรรมดักจับกุ้งล็อบสเตอร์กันแล้ว เพราะมองว่าเป็นงานหนักที่ให้ผลตอบแทนไม่คุ้มเหนื่อย คุณยายทวดจินนี่ นักจับกุ้งล็อบสเตอร์วัย 101 ปี เจ้าของประสบการณ์การจับกุ้งล็อบสเตอร์นานถึง 9 ทศวรรษ ยืนยันที่จะออกเรือไปไล่ล่าจับกุ้งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ

คุณยายทวดจินนี่ ผู้ที่ถูกเรียกขานกันทั่วรัฐเมนว่า “คุณผู้หญิงล็อบสเตอร์” ยังเดินขึ้นทางลาดชันไหว แต่ต้องมีราวสะพานช่วยเหนี่ยวตัวก้าวขึ้นไปทีละน้อย
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา : เอเอฟพี และเว็บไซต์ข่าวอีเอฟอีดอทคอมของสเปน)

กำลังโหลดความคิดเห็น