นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน แห่งมาเลเซียออกมาปฏิเสธกระแสเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งวันนี้ (4 ส.ค.) ลั่นยังได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.ส่วนใหญ่ และพร้อมพิสูจน์ให้เห็นหลังจากที่มีการเปิดประชุมสภาอีกครั้งในเดือน ก.ย.
ระหว่างการแถลงข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์ มูห์ยิดดิน ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอับดุลเลาะห์ แห่งมาเลเซียทรง “เห็นชอบ” ให้ตนรั้งเก้าอี้นายกฯ ต่อไป จนกว่าจะผ่านพ้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้จะมี ส.ส.ฟากรัฐบาลบางคนที่ขอถอนการสนับสนุนก็ตาม
มรสุมทางการเมืองที่ มูห์ยิดดิน เผชิญอยู่ในตอนนี้นับว่าหนักหน่วงที่สุดตั้งแต่เขาก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว แต่ก็โชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระราชาธิบดีผู้ทรงอิทธิพลจนสามารถรอดพ้นแรงบีบต่างๆ มาได้ ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียดิ่งเหว และรัฐต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เสียงเรียกร้องให้ มูห์ยิดดิน ลาออกดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีทรงออกมาตำหนิรัฐบาลที่ประกาศยุติภาวะฉุกเฉินโดยไม่ขอความเห็นชอบจากพระองค์ก่อน ขณะที่สำนักพระราชวังเตือนว่าการทำเช่นนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญด้วย
พรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่สุดในรัฐบาลผสมของมูห์ยิดดิน ระบุว่า พระราชดำรัสของสมเด็จพระราชาธิบดีทำให้ มูห์ยิดดิน หมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกฯ ต่อไป อีกทั้งยังมี ส.ส.ของพรรคหลายคนที่ส่งหนังสือกราบบังคมทูลขอถอนการสนับสนุน มูห์ยิดดิน
ระหว่างการแถลงข่าวพร้อมด้วย ส.ส.อีก 9 คน รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี อิสมาอีล ซาบรี ยาโกบ ที่เป็นคนของพรรคอัมโน ผู้นำมาเลเซียยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะลาออกในตอนนี้
“ผมได้กราบทูลสมเด็จพระราชาธิบดีแล้วว่า มี ส.ส.จำนวนมากได้แจ้งข่าวมายังผม ซึ่งทำให้ผมมั่นใจว่ายังได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.ส่วนใหญ่ในเวลานี้” มูห์ยิดดิน กล่าว
“อย่างไรก็ตาม ผมทราบดีว่ายังมีบางคนที่ตั้งคำถามกับการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของผม ดังนั้นผมจึงกราบทูลพระองค์ด้วยว่า ผมพร้อมจะพิสูจน์ความชอบธรรมของตัวเองผ่านกระบวนการของรัฐสภา”
รัฐบาลมาเลเซียตกอยู่ในภาวะระส่ำระสายมานานหลายเดือน โดยนอกจากจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเพียงฉิวเฉียดแล้ว ยังมีความขัดแย้งภายในระหว่างกลุ่มขั้วการเมืองต่างๆ ด้วย
แรงกดดันทางการเมืองยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมโควิด-19 เมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งส่งผลให้การประชุมสภาถูกระงับ ขณะที่นักวิจารณ์บางคนมองว่า มูห์ยิดดิน กำลังใช้วิกฤตโรคระบาดมาเป็นข้ออ้างเพื่อยื้ออำนาจ
มูห์ยิดดิน อ้างว่าความวุ่นวายทางการเมืองในตอนนี้เกิดจากการที่ตนปฏิเสธข้อเรียกร้องของ “คนบางกลุ่ม” ซึ่งรวมถึงการขอให้ใช้อำนาจช่วยเหลือนักการเมืองที่โดนข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน
“ผมถูกกดดันให้แทรกแซงศาลเพื่อช่วยเหลือคน 2-3 คนที่กำลังถูกดำเนินคดีอาญาอยู่” มูห์ยิดดิน กล่าว โดยไม่ระบุเจาะจงว่าหมายถึงใคร
ทั้งนี้ มีนักการเมืองของพรรคอัมโนหลายคนที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริต รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก และอะหมัด ซาฮิด ฮามินี ประธานพรรคอัมโน
ที่มา : รอยเตอร์