อิสราเอลจะเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค เข็มที่ 3 ให้บุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ถือเป็นชาติแรกของโลก ในความพยายามชะลอการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก หลังจากข้อมูลล่าสุดพบว่าวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค เหลือประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการเพียง 41%
นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ เปิดเผยว่าประธานาธิบดีไอแซ็ค เฮอร์ซ็อก จะเป็นคนแรกที่เข้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในวันศุกร์ (30 ก.ค.)
อิสราเอลคือชาติผู้นำโลกด้านการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน ประชากรสูงวัยจำนวนมากเข้ารับการฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือนธันวาคม มกราคมและกุมภาพันธ์ เนื่องจากพวกเขาถูกมองว่าเป็นกลุ่มประชากรที่อ่อนแอต่อโรคระบาดใหญ่มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นตัวกลายพันธุ์เดลตาปรากฏขึ้น กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลรายงาน 2 ครั้งเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่ลดลงอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อ และลดลงเล็กน้อยในการป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรง
ความเคลื่อนไหวเตรียมฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น นั่นหมายความว่าคนสูงวัยของอิสราเอลจะเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 ก่อนที่สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) จะให้การอนุมัติเสียอีก
"สิ่งที่ค้นพบก็คือภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เป้าหมายของเข็มเสริมนี้ก็เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกันอีกครั้ง ดังนั้น จะช่วยลดโอกาสของการติดเชื้อและล้มป่วยอาการรุนแรง" เบนเนตต์ กล่าวระหว่างแถลงข่าว
"ผมเรียกร้องผู้สูงอายุทุกคนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 เข็ม เข้ารับวัคซีนเข็มเสริม" เขากล่าว "บุคคลรายแรกที่ผมจะโทรศัพท์หาหลังเสร็จสิ้นคำแถลงนี้จะเป็นบุคคลที่ผมรักมากที่สุด นั่นคือแม่ของผม ผมจะพาเธอเข้าฉีดวัคซีนในทันที" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ
เมื่อวันพุธ (28 ก.ค.) ไฟเซอร์เชื่อว่าผู้คนจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มเสริมเพื่อคงประสิทธิภาพการป้องกันตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก และทางบริษัทบอกว่าจะยื่นขออนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉินจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ สำหรับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างเร็วที่สุดคือในเดือนสิงหาคม
คณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนของอิสราเอล ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบอย่างท่วมท้นในช่วงเย็นวันพุธ (28 ก.ค.) สำหรับโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และทาง เบนเนตต์ บอกว่า กลุ่มคนที่เข้าเกณฑ์ก็คือบุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ครบ 2 เข็มไปแล้วอย่างต่ำ 5 เดือน
สัปดาห์ก่อน กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล คาดการณ์ว่าวัคซีนไฟเซอร์ เหลือประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการแค่ 41% ในเดือนที่แล้ว แต่ยังคงมีประสิทธิภาพแข็งแกร่ง ป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรงได้ถึง 91%
ผลการศึกษาวิจัยระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคม โดยไม่เปิดเผยจำนวนกลุ่มตัวอย่าง พบว่า วัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค มีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเพียง 39% ป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการเพียง 41% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อน 64%
พวกผู้เชี่ยวชาญบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์การวิเคราะห์ของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ว่าความมีอคติอาจทำให้ข้อมูลบิดเบือน ส่วนคนอื่นๆ แนะนำว่าอิสราเอลควรรอดูข้อมูลต่างๆ ด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้นานกว่านี้ แล้วถึงค่อยเริ่มฉีดเข็ม 3 แก่ประชาชน
จนถึงตอนนี้มีประชาชน 57% จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคนของอิสราเอล ที่ฉีดวัคซีนแล้ว
เวลานี้มีประชาชนราว 160 คนที่ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นมากกว่า 2,000 ราย จากระดับไม่กี่สิบเคสต่อวันไม่กี่เดือนก่อน
เบนเนตต์ ระบุว่า รัฐบาลของเขาแสดงความหวังว่าการยกระดับความพยายามฉีดวัคซีนจะช่วยให้อิสราเอลสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์ที่ก่อความเสียหายมหาศาล
(ที่มา : รอยเตอร์)