ซาอุดีอาระเบียประกาศบทลงโทษ “ห้ามเดินทาง 3 ปี” สำหรับพลเมืองที่ฝ่าฝืนคำสั่งเดินทางไปยังประเทศที่ถูก “ขึ้นบัญชีแดง” เนื่องจากโควิด-19 ระบาดหนัก
กระทรวงมหาดไทยซาอุฯ แถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า พลเมืองคนใดก็ตามที่ถูกพบว่าเดินทางไปยังประเทศที่ถูกขึ้นบัญชีแดงโควิด “จะมีโทษหนัก รวมถึงถูกห้ามไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลา 3 ปี”
“เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังรุนแรง และมีการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่ๆ ทางกระทรวงจึงขอเตือนท่านให้งดเดินทางไปยังประเทศที่มีรายชื่อในบัญชี ไม่ว่าจะทางตรง หรือผ่านประเทศอื่นก็ตาม”
ข้อมูลจากสายการบินซาอุเดีย (Saudia) ระบุว่า พลเมืองซาอุฯ ถูกห้ามไม่ให้เดินทางไปยัง 16 ประเทศ เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม อัฟกานิสถาน อินเดีย ปากีสถาน บราซิล ตุรกี รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และในเดือนนี้รัฐบาลยังได้สั่งระงับเที่ยวบินไปยังยูเออี เอธิโอเปีย และเวียดนาม เพื่อสกัดการแพร่เข้ามาของเชื้อโควิดกลายพันธุ์
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากราชอาณาจักรที่ร่ำรวยน้ำมันแห่งนี้ผ่อนคลายคำสั่งห้ามเดินทางที่ใช้มานานกว่า 1 ปี โดยอนุญาตให้พลเมืองที่ฉีดวัคซีนครบแล้วไปต่างประเทศได้
ยูเออี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ดูไบ” ถือเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวซาอุฯ
กระทรวงมหาดไทยซาอุฯ ชี้ว่า สาเหตุที่รัฐบาลต้องใช้บทลงโทษก็ “เพื่อสกัดการแพร่เข้ามาของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์” แต่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าหมายถึงสายพันธุ์ “เดลตา”
โควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งถูกพบเป็นครั้งแรกในอินเดียได้แพร่กระจายไปสู่หลายสิบประเทศ และถือเป็นตัวกลายพันธุ์ที่ติดต่อได้ง่ายที่สุดเท่าที่โลกเคยพบมา
รัฐบาลริยาดยังจำกัดจำนวนชาวมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ เพื่อลดความเสี่ยงแพร่โควิด
ซาอุดีอาระเบียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากกว่า 520,000 คน เสียชีวิต 8,189 คน
ที่มา : เอเอฟพี