เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน 20 คันรวดบนทางหลวงในรัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ (25 ก.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน บาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก หลังเกิดพายุทรายซัดกระหน่ำจนบดบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนทางหลวง I-15 ใกล้กับเมืองคานอช (Kanosh) โดยมีผู้เสียชีวิตเป็นผู้ใหญ่ 4 คน และเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีอีก 4 คน
ผู้บาดเจ็บอีก 10 ถูกนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ และมีอย่างน้อย 3 คนที่อาการสาหัส
สำนักงานบริการสาธารณะแห่งรัฐยูทาห์ (DPS) ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า “เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 20 คัน หลังมีกระแสลมพัดแรงจนเกิดเป็นพายุทราย หรือพายุฝุ่น และบดบังทัศนวิสัยบนท้องถนน”
ภาพถ่ายจากจุดเกิดเหตุเผยให้เห็นรถเทรลเลอร์หลายคันและรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีกหลายคันในสภาพพังเสียหาย มีเศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายเป็นวงกว้าง โดยมีรถอย่างน้อย 1 คันที่ประตูฉีกขาดออกมา
DPS ได้สั่งปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อเวลาก่อน 17.00 น. เพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ มีรายงานการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองทางตะวันออกเฉียงใต้ของคานอช เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ซึ่งทำให้เกิดกระแสลมแรงในขณะที่พายุเริ่มสงบลง
รัฐยูทาห์กำลังเผชิญสภาพอากาศแห้งแล้งจัด ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดพายุฝุ่น หรือพายุทรายได้บ่อยขึ้น ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศระบุว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรงเป็นพิเศษในปีนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทำให้ปริมาณฝนลดลง และเกิดคลื่นความร้อนที่ทำให้ผืนดินแห้งผาก
ที่มา : CNN