รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ซีอีโอใหญ่ยูนิลีเวอร์แถลงย้ำวันพฤหัสบดี (22 ก.ค.) ยังคงจุดยืนจำหน่ายไอศกรีมในอิสราเอลต่อไปแต่การตัดสินใจเลิกขายออกมาจากบอร์ด บ.ไอศกรีมชื่อดังของรัฐเวอร์มอนต์ หลัง เบน&เจอร์รี แถลงการณ์ในสัปดาห์นี้จะหยุดการจำหน่ายไอศกรีมในเขตตั้งถิ่นฐานชาวยิวในปาเลสไตน์อย่างถาวร โดยระบุว่าไม่สอดคล้องไปกับคุณค่าทางสังคม
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (22 ก.ค.) ว่า ซีอีโอใหญ่ของบริษัทยูนิลีเวอร์ อาลัน โจป (Alan Jope) กล่าวถึงประเด็นการหยุดจำหน่ายไอศกรีมเบน&เจอร์รี (Ben & Jerry's) ในเขตนิคมตั้งถิ่นฐานชาวยิวในเขตปาเลสไตน์กับบรรดาผู้ถือหุ้นในวันพฤหัสบดี (22)
“หากว่ามี 1 ข้อความที่ผมต้องการที่จะย้ำ...นั่นก็คือทางยูนิลีเวอร์ยังคงพันธสัญญาอย่างสมบูรณ์ต่อธุรกิจของเราในอิสราเอล”
เขาเปิดเผยว่า ทางกลุ่มธุรกิจได้ลงทุน 1 พันล้านเชเคลอิสราเอล หรือราว 306 ล้านดอลลาร์ในอิสราเอลตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา และยังลงทุนในโครงการสตาร์ทอัปด้านวัฒนธรรมและสังคม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนใหม่ นาฟตาลี เบนเนตต์ (Naftali Bennett) ออกมาข่มขู่ในวันอังคาร (20) ถึงผลที่จะตามมาจากการตัดสินใจของบริษัทไอศกรีมชื่อดังของสหรัฐฯ
เบน&เจอร์รีที่สร้างชื่อเสียงมาจากการเป็นผู้สนับสนุนในประเด็นทางสังคมต่างๆ เป็นต้นว่า แบล็กไลฟ์ส์แมทเทอร์ และสิทธิชาวสีรุ้ง LGBTQ+ ถูกควบรวมโดยยูนิลีเวอร์เมื่อปี 2000 ภายใต้ข้อตกลงที่อนุญาตบริษัทสามารถมีความเป็นอิสระมากกว่าบริษัทลูกอื่นๆ โจป กล่าว
“มันเป็นการตัดสินใจจากทางเบน&เจอร์รี และของบอร์ดบริหารอิสระของบริษัทไอศกรีม...และทางเรายังคงตระหนักถึงความสำคัญของสัญญาฉบับนั้น” โจปแถลง
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นไปถึงผลกระทบต่อการขายและความตึงเครียดระหว่างแบรนด์ต่างๆ ภายใต้เครือยูนิลีเวอร์ แต่เปิดเผยว่าการพูดจาระหว่างไอศกรีมเบน&เจอร์รี และแบรนด์ทั้งหมดของยูนิลีเวอร์เป็นไปได้ด้วยดี
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า เบน&เจอร์รีเริ่มทำธุรกิจในอิสราเอลมาตั้งแต่ปี 1987 บริษัทระบุในวันจันทร์ (19) สำหรับการยกเลิกการจำหน่ายว่า ได้แจ้งไปยังผู้ได้รับใบอนุญาตให้จัดจำหน่ายในอิสราเอลว่า จะไม่มีการต่ออายุสัญญาหลังจากการสิ้นสุดลงในปี 2022 และหลังจากนั้นแล้วไอศกรีมเบน&เจอร์รีจะยกเลิกการจำหน่ายในเขตดินแดนปาเลสไตน์ แต่จะยังคงจำหน่ายในอิสราเอลต่อไป
นอกเหนือจากผู้นำอิสราเอลแล้วพบว่ารัฐมนตรีมหาดไทยอิสราเอลที่เป็นสตรีระบุอย่างมีอารมณ์ว่า
“ไอศกรีมของพวกคุณไม่ตรงกับรสนิยมของพวกเรา” และเสริมว่า “พวกเราจะอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีพวกคุณ”