ราคาน้ำมันขยับลงอีกกว่า 1 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (15 ก.ค.) ยังถูกฉุดจากข้อตกลงประนีประนอมระหว่างบรรดาผู้ผลิตแกนนำของโอเปกในการป้อนอุปทานสู่ตลาดเพิ่มเติม ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานตามแรงขายทำกำไร ขณะที่ทองคำปรับขึ้น 3 วันติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันปรับลดต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ (14 ก.ค.) หลังรอยเตอร์สรายงานว่าซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เห็นพ้องต้องกันซึ่งจะเปิดทางสำหรับข้อตกลงหนึ่งที่จะป้อนอุปทานน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดพลังงานที่เวลานี้อยู่ในภาวะตึงตัว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (15 ก.ค.) ปิดผสมผสาน แม้รายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆ แข็งแกร่ง พวกนักวิเคราะห์ชี้เป็นผลจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 53.79 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,987.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.27 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,360.03 จุด แนสแดค ลดลง 101.82 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,543.13 จุด
ดัชนีทั้ง 3 พุ่งทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (9 ก.ค.) และในวันจันทร์ (12 ก.ค.)ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเผยแพร่รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่เริ่มต้นขึ้นอย่างไม่เป็นทางการในวันอังคาร (13 ก.ค.)
ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่าวอลล์สตรีทน่าจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น จากรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน ข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ พบว่า จำนวนผู้ยื่นรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ลดลงเหลือ 360,000 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น
ด้านราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (15 ก.ค.) ปิดบวก 3 วันติดต่อกัน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,829.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)