มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 150 ราย ในเหตุยิงกันมากกว่า 400 เหตุการณ์ทั่วสหรัฐฯระหว่างช่วงสุดสัปดาห์วันชาติอเมริกา 4 กรกฏาคม ท่ามกลางอาชญากรรมรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้นตามเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ จากข้อมูลที่รวบรวมโดยกลุ่มไวโอเลนซ์ อาร์เคฟ์ องค์กรวิจัยไม่แสวงหาผลกำไร
ข้อมูลนี้ซึ่งเป็นการรวบรวมถึงจำนวนของเหตุยิงกันและจำนวนเหยื่อความรุนแรงจากอาวุธปืนทั่วประเทศในช่วง 72 ชั่วโมง ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม จนถึงวันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม ยังคงอยู่ระหว่างการรวบรวมและจะมีการอัปเดตกันอีกครั้ง
ในนิวยอร์ก พื้นที่ซึ่งความรุนแรงจากอาวุธปืนพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับที่ไม่พบเห็นในรอบหลายปี พบเหยื่อ 26 รายในเหตุยิงกัน 21 เหตุการณ์ ตั้งแต่วันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์ แต่ถือว่าลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคราวนั้นมีเหตุยิงกัน 25 เหตุการณ์ และมีคนถูกยิง 30 ราย จากข้อมูลของกรมตำรวจนิวยอร์ก
อย่างไรก็ตาม ทางกรมตำรวจนิวยอร์กระบุว่าหากนับเฉพาะวันชาติสหรัฐฯ วันที่ 4 กรกฎาคม เมืองแห่งนี้เกิดเหตุยิงกัน 12 เหตุการณ์ มีเหยื่อ 13 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งมีเหตุยิงกัน 8 เหตุการณ์ และมีเหยื่อ 8 คน
จนถึงตอนนี้นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2021 เหตุการณ์ความรุนแรงจากอาวุธปืนในนิวยอร์กเพิ่มขึ้นเกือบ 40% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2020 พบเหตุยิงกันแล้ว 767 เหตุการณ์ และมีเหยื่อ 885 ราย
ในชิคาโก ผู้บัญชาการตำรวจ เดวิด บราวน์ เคยหยิบยกความกังวลในเรื่องดังกล่าวและเตือนถึงช่วงสุดสัปดาห์ที่ท้าทายที่สุดในรอบปีของตำรวจ แต่กระนั้นก็มีคนถูกยิงมากถึง 83 ราย ในนั้น 14 คนเสียชีวิต ระหว่าง 06.00 น.ของวันศุกร์ จนถึง 06.00 น.ของวันจันทร์ โดยในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นรวมถึงเด็กหญิงวัย 5 ขวบ และ 6 ขวบ
รายงานข่าวของดับเบิลยูแอลเอส เครือข่ายของซีเอ็นเอ็น ระบุว่า หนึ่งใน 14 คนที่เสียชีวิตในชิคาโก เป็นสมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิอิลลินอยส์ ทางครอบครัวระบุตัวตนเขาบนสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้แก่นายคริส คาร์วาจาล แม้เจ้าหน้าที่ชันสูตร คุ้ก เคาน์ตี ไม่ได้เปิดเผยชื่อเขาอย่างเป็นทางการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชิคาโก 2 คนได้รับบาดเจ็บในเหตุยิงกันในคืนวันที่ 4 กรกฎาคม หลังจากบุคคลรายหนึ่งเปิดฉากยิงเข้าใส่ระหว่างพวกเจ้าหน้าที่กำลังเข้าสลายการรวมตัวของผู้คนหลายพันคน และทำการจับกุมไปมากกว่า 60 ราย อย่างไรก็ตาม คาดหมายว่าอาการของพวกเขาไม่น่าเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
ต่างจากเมืองอื่นๆ ที่ประสบอาชญากรรมความรุนแรงพุ่งสูง อัตราคดีฆาตกรรมในชิคาโกตลอดทั้งเดือนมิถุนายนต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนราวๆ 2% แม้จำนวนเหยื่อสูงขึ้น 14% ก็ตาม
นอกจากนิวยอร์กและชิคาโกแล้ว ยังมีเหตุกราดยิงหมู่อีกมากมายหลายเหตุการณ์ทั่วสหรัฐฯ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยซีเอ็นเอ็นให้คำจำกัดความการกราดยิงหมู่ ว่าเป็นเหตุยิงกันที่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ไม่รวมถึงผู้ก่อเหตุ
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คนในตอนเช้าวันอาทิตย์ (4 ก.ค.) ในเหตุยิงกันใกล้ร้านล้างรถแห่งหนึ่งในเมืองฟอร์ตเวิร์ท รัฐเทกซัส หลังเกิดการโต้เถียงกันระหว่างชายกลุ่มหนึ่ง
ชายคนหนึ่งในกลุ่มคนที่โต้เถียงกัน แยกตัวออกไปและกลับมาพร้อมอาวุธปืน จากนั้นก็เริ่มกราดยิงเข้าใส่ผู้คน ระหว่างนั้นหลายคนก็ชักปืนยิงตอบโต้ ทั้งนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบทุกรายเชื่อว่าเป็นผู้สัญจรผ่านไปมาที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ อย่างไรก็ตามทั้งหมดอาการทรงตัว
ในนอร์ฟอล์ค รัฐเวอร์จิเนีย มีเด็ก 4 คนถูกยิงในช่วงบ่ายวันศุกร์ (4 ก.ค.) ในนั้นรวมถึงเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่เบื้องต้นมีรายงานว่าอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน อย่างไรก็ตาม เวลานี้อาการของเธอทรงตัวแล้ว ส่วนเหยื่อคนอื่นๆ ประกอบด้วย เด็กชายวัย 14 ปี เด็กหญิงวัย 16 ปี และเด็กชายวัย 16 ปี ทั้งหมดคาดหมายว่าจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ
ตำรวจนอร์ฟอล์คเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนได้จับกุมและตั้งข้อหาเด็กชายวัย 15 ปีรายหนึ่ง ในความเกี่ยวข้องกับเหตุยิงกันดังกล่าว
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ยังมีเหตุการณ์ยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายอีกหลายเหตุการณ์ในหลายเมืองช่วงสุดสัปดาห์วันชาติอเมริกา 4 กรกฎาคม ในนั้นรวมถึงที่แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมืองโตเลโด รัฐโอไฮโอ เมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ ในดัลลัส รัฐเทกซัส และที่อื่นๆ
(ซีเอ็นเอ็น)