เหตุการณ์ช็อก! ตำรวจหญิงสหรัฐฯ ขับรถลาดตระเวนทับเหยื่อถูกยิงจนเสียชีวิต (ชมวิดีโอ)

ตำรวจหญิงรายหนึ่งในรัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ ถูกพักงาน หลังบันทึกภาพกล้องติดหน้ารถ พบเธอขับรถลาดตระเวนทับเหยื่อถูกยิงรายหนึ่่งโดยไม่ตั้งใจ ระหว่างที่เหยื่อรายดังกล่าวกำลังนอนรวยรินอยู่ริมถนน ก่อนที่เหยื่อจะเสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น

อแมนดา โรซาเลส เจ้าหน้าที่ตำรวจสปริงฟิลด์ เป็นผู้อยู่หลังพวงมาลัยรถเอสยูวีของตำรวจ ขณะออกลาดตระเวนเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน และภาพจากกล้องติดหน้ารถ พบว่า ระหว่างลาดตระเวนนั้น รถสายตรวจคันนี้ได้แล่นทับนายเอริค โคล วัย 42 ปี ชายผิวสี ที่กำลังนอนหงายอยู่บนถนนและมีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลบริเวณแขนซ้ายและไหล่ข้างซ้ายบริมาณมาก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนประมาณ 23.30 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ก่อนที่ โคล จะถูกลำเลียงทางอากาศพาตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตตอนเวลาราวๆ เที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน จากคำแถลงของ ลี กราฟ ผู้บัญชาการตำรวจในเวลาต่อมาเมื่อวันพุธที่ 16 มิถุายน

กราฟ แสดงความเสียใจกับครอบครัวเหยื่อ และบอกว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะพวกเจ้าหน้าที่รุดไปยังสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเหยื่อถูกยิงนั้นอยู่ในจุดไหน

"มันทำให้เจ้าหน้าที่เร่งรีบพยายามตามหาที่อยู่ของบ้าน แต่ เอริค นอนรวยรินอยู่บนถนน" กราฟบอก "มันเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้หมายความว่ามันไม่เป็นอะไร แต่มันเป็นอุบัติเหตุ มันไม่ใช่การลงมือโดยตั้งใจของเจ้าหน้าที่ ผมมั่นใจ"

กราฟเผยว่า หลายหน่วยงานได้เปิดการสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ในนั้นรวมถึงการสืบสวนภายในและการสืบสวนอุบัติเหตุของหน่วยลาดตระเวน​ทางหลวงรัฐโอไฮโอ ขณะที่โฆษกของเมืองเผยว่า โรซาเลส ซึ่งถูกจ้างงานในเดือนมกราคม 2020 ถูกสั่งพักงานเมื่อวันพฤหัสบดี (17 มิ.ย.)


นอกจากนี้แล้ว ทางโฆษกของเมืองเปิดเผยด้วยว่า ตำรวจยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนหาว่าใครเป็นคนลงมือยิงนายโคล แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยรายใด

ภาพจากล้องติดหน้ารถตำรวจ พบเห็นเสื้อยืดสีขาวของโคลเต็มไปด้วยเลือด และดูเหมือนว่ามือของเขาถืออะไรบางอย่างวางอยู่บนใบหน้าก่อนถูกรถทับ ส่วนอีกภาพพบเห็นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ กำลังลงจากรถของตนเองและเข้าไปดูอาการโคล หลังจากรถของโรซาเลสแล่นทับเหยื่อรายนี้ และพยายามช่วยเหลือเขา

รายงานข่าวระบุว่า โคล โทรศัพท์แจ้ง 911 ไม่นานก่อนถูกรถสายตรวจของโรซาเลสแล่นทับ "ความจริงคือ เขาเป็นคนโทร.แจ้งและเขาบอกว่าเขาถูกยิง แน่นอนว่าเขากลัวมาก และบอกว่าเขาคิดว่าตนเองกำลังจะตาย" กราฟเผย

อย่างไรก็ตาม กราฟ เน้นว่าในมุมมองจากกล้องติดหน้ารถไม่ได้บ่งบอกถึงสิ่งที่คนขับมองเห็นเสมอไป เนื่องจากกล้องนั้นถูกยึดอยู่กับที่ ส่วนคนขับนั้นมักมีการขยับตัวระหว่างการขับขี่ "กล้องจะเล็งไปที่จุดโฟกัส แต่มันไม่ได้บ่งชี้ว่าภาพเหล่านั้นเป็นสิ่งเดียวกับที่เจ้าหน้าที่มองเห็นขณะเกิดเหตุ"

เรกินา วิลสัน แม่ของโคล รู้สึกอึ้งและไม่เชื่อในคำอธิบายของกราฟ พร้อมตั้งข้องสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครชี้แจงการกระทำของโซลาเซสตั้งแต่แรก

ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของเมืองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเช่นกัน เนื่องจากในรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้พูดถึงเรื่องที่รถลาดตระเวนตำรวจแล่นทับโคล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แก้ต่างว่ามันเป็นเพราะพวกเขารายงานเหตุยิงกันแยกจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในเรื่องหลังนี้ทางหน่วยลาดตระเวน​ทางหลวงจะเป็นผู้รับผิดชอบสืบสวน

สำนักงานชันสูตรศพมอนต์โกเมรี เคาน์ตี จะเป็นผู้สรุปสาเหตุและรูปแบบการเสียชีวิตของโคล ขณะที่ แบรนด์ดี บูร์เชตต์ หัวหน้าทีมสืบสวนเผยว่า คำตอบต่างๆ ของคดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน และมันอาจใช้เวลาสูงสุด 12 เดือน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องรอผลตรวจพิษวิทยา และผลตรวจอื่นๆ เสียก่อน

(ที่มา : ซีบีเอสนิวส์)