โบอิ้ง ผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของสหรัฐฯ นำเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 10 ซึ่งเป็นรุ่นขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเครื่องบินโดยสารชนิดทางเดินเดี่ยวตระกูล 737 ออกมาทดสอบบินเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในแผนฟื้นฟูธุรกิจของโบอิ้ง หลังจากที่เครื่องตระกูล 737 แม็กซ์ เคยประสบอุบัติเหตุตกต่อเนื่องจนถูกสั่งห้ามทำการบินนานนับปี
โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 10 เทกออฟจากรันเวย์ของสนามบิน Renton Municipal Airport ใกล้กับเมืองซีแอตเติล เมื่อเวลา 12.38 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยใช้เวลาทำการบินเหนือท้องฟ้ารัฐวอชิงตันประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะกลับมาลงจอดที่เดิม
เครื่องบินรุ่นนี้ผ่านกระบวนการทดสอบด้านความปลอดภัยนานหลายเดือนก่อนจะทำการบินครั้งแรก และคาดว่าจะให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2023
โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 10 สามารถจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 230 ที่นั่ง โดยถูกออกแบบมาเพื่อลดช่องว่างระหว่างรุ่น 737-9 ซึ่งจุผู้โดยสารได้ 178-220 ที่นั่ง กับเครื่องบิน A321 นีโอ ของค่าย “แอร์บัส” ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้ 185-240 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกันแล้ว โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 10 ยังมีข้อจำกัดในด้านพิสัยการบินซึ่งอยู่ที่ราวๆ 6,100 กิโลเมตร (3,300 ไมล์ทะเล) ในขณะที่แอร์บัส A321 นีโอ มีพิสัยการบินไกลถึง 7,300 กิโลเมตร (4,000 ไมล์ทะเล)
ทั้งนี้ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 10 ยังจะต้องฝ่าฟันกระบวนการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งกว่าเดิมมาก หลังจากที่เครื่องบินขนาดเล็กกว่าในตระกูล 737 แม็กซ์ เคยเกิดอุบัติเหตุตกติดๆ กันถึง 2 ครั้งเมื่อช่วงปี 2018-2019 จนทำให้ถูกสั่งระงับบินทั่วโลกนานเกือบ 2 ปี และเวลานี้ก็ยังไม่ถูกปลดแบนในจีน
โบอิ้งได้ทำการปรับแก้ดีไซน์และยกเครื่องการฝึกอบรมนักบิน 737 แม็กซ์ จนกระทั่งได้รับอนุญาตให้กลับมาทำการบินในสหรัฐฯ อีกครั้งเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว