บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเลื่อนแผนปลดข้อจำกัดโควิด-19 ทั้งหมดที่เหลืออยู่ออกไป 1 เดือนในวันจันทร์ (14 มิ.ย.) เตือนประชาชนอีกหลายพันคนอาจต้องมาจบชีวิตลง หากว่าเขาไม่ทำอะไรเลย สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของตัวกลายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่แพร่เชื้อง่ายกว่าตัวดั้งเดิม
ในขั้นสุดท้ายแผนการปลดล็อกของจอห์นสันที่วางกรอบเอาไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาหวังว่าจะยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมทั้งหมดในวันที่ 21 มิถุนายน นั่นหมายความว่า ผับ ร้านอาหาร ไนต์คลับ และสถานบริการอื่นๆ จะสามารถกลับมาเปิดบริการได้อย่างเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมาตรการที่คาดหวังกันอย่างมากนี้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 19 กรกฎาคม
"ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่จะรอนานกว่าเดิมนิดหน่อย" จอห์นสันกล่าวระหว่างแถลงข่าว "หากสิ่งต่างๆ เป็นไปตามนี้ และเป็นไปตามหลักฐานที่ผมเห็นในตอนนี้ ผมเชื่อมั่นว่าเราคงไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดมากไปกว่า 4 สัปดาห์"
การขยายเวลาเพิ่มเติมนี้จะถูกใช้สำหรับเร่งรัดโครงการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหนึ่งชาติที่มีอัตราการฉีดรวดเร็วที่สุดในโลก หลังจากปรับลดคำแนะนำการฉีดระหว่างโดสสำหรับบุคคลอายุ 40 ปีขึ้นไป จาก 12 สัปดาห์ เหลือ 8 สัปดาห์
จะมีการทบทวนสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งอาจเปิดทางสำหรับการร่นเวลาเปิดเศรษฐกิจเร็วขึ้น แม้โฆษกของจอห์นสันยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรพบเคสผู้ติดเชื้อใหม่โควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันมีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดีย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื่อว่าตัวกลายพันธุ์นี้แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมถึง 60% และบรรดานักวิทยาศาสตร์เตือนว่ามันอาจโหมกระพือการแพร่ระบาดระลอก 3 ในสหราชอาณาจักร
พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายค้าน กล่าวโทษรัฐบาลว่าเป็นต้นเหตุของการเลื่อนปลดข้อจำกัดสกัดโควิด-19 ระบุว่า รัฐบาลดำเนินการล่าช้าเกินไปในการปิดพรมแดนห้ามนักเดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ
ในวันจันทร์ (14 มิ.ย.) สหราชอาณาจักรรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 7,742 คนและเสียชีวิต 3 ราย ซึ่ง จอห์นสัน บอกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่กำลังเพิ่มขึ้นราว 64% ต่อสัปดาห์ และจำนวนคนไข้อาการหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
"จากมาตรการระมัดระวังในตอนนี้ เรามีโอกาสในช่วง 4 สัปดาห์ข้างหน้าในการปกป้องชีวิตผู้คนอีกหลายพันคน ผ่านการฉีดวัคซีนประชาชนเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคน" เขากล่าว
สหราชอาณาจักรรายงานมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อย่างเป็นทางการแล้วเกือบ 128,000 คนนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น สูงสุดเป็นอันดับ 7 ของโลก
การตัดสินใจในวันจันทร์ (14 มิ.ย.) อยู่บนพื้นฐานของแบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าหากเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจตามแผนเดิม สถานการณ์ตามโรงพยาบาลต่างๆ อาจย้อนคืนสู่สถานการณ์เดียวกับเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ซึ่งคราวนั้นคณะรัฐมนตรีแสดงความกังวลว่าระบบสาธารณสุของประเทศอาจรองรับผู้ป่วยไม่ไหว
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (14 มิ.ย.) พบว่าตัวกลายพันธุ์เดลตา เพิ่มความเสี่ยงถึงเท่าตัวในการติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล แต่การฉีดวัคซีนครบ 2 โดสสามารถมอบการป้องกันอย่างแข็งแกร่ง
จอห์นสัน เป็นผู้กำหนดข้อจำกัดโควิด-19 เฉพาะกับอังกฤษ ส่วนคณะรัฐบาลในสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือจะตัดสินใจนโยบายต่างๆ ของตนเอง
แม้จะประกาศเลื่อในวันจันทร์ (14 มิ.ย.) แต่รัฐบาลอังกฤษได้ยกเลิกข้อจำกัดบางอย่างเกี่ยวกับจำนวนแขกที่ได้รับอนุญาตร่วมงานแต่งงาน และจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนผู้ชมตามกิจกรรมกีฬาต่างๆ และโรงมหรสพ
ความเคลื่อนไหวของอังกฤษมีขึ้นแม้ว่าสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในชาติที่ดำเนินโครงการฉีดวัคซีนประชาชนรวดเร็วที่สุดในโลก ด้วยจนถึงตอนนี้มีประชาชนเข้ารับวัคซีนโดสแรกไปแล้วมากกว่า 41 ล้านคน ในนั้นเกือบ 30 ล้านคนฉีดครบ 2 โดสแล้ว หรือคิดเป็นราวๆ 57% ของจำนวนประชากร
(ที่มา : รอยเตอร์)
