เอเจนซีส์ – วัคซีนโนวาแวกซ์ (Novavax)กลายเป็นวัคซีนโควิด-19 สัญชาติอเมริกันตัวที่ 4 แบบ 2 โดสที่น่าจับตาหลังเปิดรายงานการทดสอบกับอาสาสมัครเกือบ 30,000 คนทั้งในสหรัฐฯและเม็กซิโกพบประสิทธิภาพ 90.4% เท่าโมเดอร์นาและไฟเซอร์-ไบออนเทค แต่ประสิทธิภาพจะเพิ่มเป็น 100% ในเคสป่วยปานกลางถึงป่วยหนักเหมือนกับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอหน์สัน เตรียมขออนุญาตใช้ฉุกเฉินในอังกฤษ อียู และเกาหลีใต้ ส่วนในสหรัฐฯคาดจะยื่นในกันยายน
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานวันนี้(14 มิ.ย)ว่า บริษัทโนวาแวกซ์(Novavax) ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯในวันจันทร์(14)ได้เปิดเผยผลการทดสอบทางคลินิกกับอาสาสมัครทั้งในสหรัฐฯและเม็กซิโกจำนวน 29,960 คนพบประสิทธิภาพการรักษา 90.4% เท่าโมเดอร์นาและไฟเซอร์-ไบออนเทค แต่ประสิทธิภาพจะเพิ่มเป็น 100% ในเคสป่วยปานกลางถึงป่วยหนักเหมือนกับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอหน์สัน
ทางบริษัทเตรียมขออนุญาตใช้ฉุกเฉินในประเทศอื่นก่อนที่จะยื่นขอจากสหรัฐฯ โดยทางซีอีโอบริษัทโนวาแวกซ์ สแตนลี เอิร์ค(Stanley Erck) ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ว่าวัคซีนของบริษัทอาจจะได้รับอนุมัติในต่างแดนก่อน โดยในเวลานี้ทางบริษัทืกำลังยื่นขออนุญาตเพื่อการใช้ฉุกเฉินในอังกฤษ สหภาพยุโรป อินเดีย และเกาหลีใต้
“ผมคิดว่าเป็นข่าวดีที่ข้อมูลมันน่าตื่นเต้นและมันเป็นแรงจูงใจให้ทุกคนให้ความสนใจต่อการยื่นขอของเรา”
สำหรับแผนการยื่นขอต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA พบว่าอาจจะเลยไปถึงสิ้นเดือนกันยายน เนื่องมาจากในเวลานี้สหรัฐฯมีจำนวนวัคซีนโควิด-19เกินความต้องการและทำให้ทางหน่วยงานอาจต้องการให้บริษัทยาที่ต้องการยื่นขอการรับรองให้ทำเรื่องขอเพื่อใช้อนุญาตเป็นการถาวรมากกว่าการขอเพื่อการใช้ฉุกเฉินซึ่งกระบวนการต้องกินเวลานานอีกหลายเดือน
นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ทางบริษัทยาโนวาแวกซ์อาจจำเป็นต้องทำการศึกษาวัคซีนเพิ่มเติมในประเทศอื่นๆอีกด้วย
โนวาแวกซ์เป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในสมัยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในปีที่ผ่านมาจากปฎิบัติการวาร์ป สปีดด้วยข้อตกลง 1.6 พันล้านดอลลาร์สำหรับ 100 ล้านโดสในอนาคต ทางบริษัทได้รับอานิสงค์ครั้งใหญ่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยนำวัคซีนออกสู่ตลาดมานานร่วม 30 ปี
ซึ่งในการสนับสนุนของวาร์ป สปีดทำให้ทางบริษัทสามารถทำการวิจัยคลินิกกับอาสาสมัครจำนวนมากได้ทั้งในสหรัฐฯและเม็กซิโก แต่ประสบปัญหาล่าช้าการผลิตที่เลื่อนออกไปจนกระทั่งธันวาคม และทำให้คู่แข่งไม่ว่าจะเป็นวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค วัคซีนโมเดอร์นา และวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ต่างได้รับไฟเขียวจาก FDA ไปแล้ว แต่ของโนวาแวกซ์ยังคงอยู่ในขั้นทดสอบ
เมื่อมกราคมต้นปีร่วมกับอาสามัครจำนวน 15,000 คนในอังกฤษพบว่ามีประสิทธิภาพวัคซีนอยู่ที่ 96% ต่อไวรัสเดิม และต่อสายพันธุ์อังกฤษประสิทธิภาพจะลดลงอยู่ที่ 86% และสำหรับการศึกษาในแอฟริกาใต้ 2,900 คน ประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ลดต่ำแค่ 49% เท่านั้น
และระหว่างยังคงการทำทดสอบพบว่าโนวาแวกซ์ได้เป็นพันธมิตรร่วมกับที่อื่นๆเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับสถาบันเซรุมวิทยาอินเดีย และเอสเค ไซเอนเซส(SK Biosciences)ของเกาหลีใต้ รวมถึงกับ GAVI ผ่านโครงการ COVAX ของสหประชาชาติสนับสนุน 1.1 พันล้านโดสให้กับประเทศปานกลางถึงยากจนเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19
นิวยอร์กไทม์สชี้ว่า นอกเหนือจากมีปัญหาด้านการผลิตแล้วทางบริษัทยายังมีปัญหาต้องพัฒนาชุดทดสอบพิเศษเพื่อยืนยันคุณภาพของผลิตภัณฑ์
อ้างอิงจากหัวหน้าบริหารของโนวาแวกซ์พบว่า ทางบริษัทจะยื่นขอต่อ FDA ก็ต่อเมื่อทางบริษัทเสร็จสิ้นการพัฒนาการทดสอบประกันคุณภาพวัคซีนก่อน เอิร์คกล่าวว่า ทางบริษัทวางแผนที่จะผลิตให้ได้ 100 ล้านโดส/เดือนภายในสิ้นไตรมาสที่ 3 และ 150 ล้านโดส/เดือนภายในสิ้นไตรมาสที่ 4
ทั้งนี้โนวาแวกซ์อาจถูกใช้เป็นวัคซีนบูสเตอร์หรือ เข็มที่ 3 ในสหรัฐฯแต่จะเป็นวัคซีนแรกที่จะมีคนทั่วโลกจำนวนมากได้เห็น