กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลกำลังตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ ‘ไฟเซอร์’ กับอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังมีรายงานพบผลข้างเคียงดังกล่าวในผู้รับวัคซีนบางราย โดยเฉพาะกลุ่มชายอายุน้อย
กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลได้เปิดเผยผลการศึกษาซึ่งพบว่า ระหว่างเดือน ธ.ค. ปี 2020 จนถึงเดือน พ.ค. ปีนี้ มีรายงานการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) ในผู้รับวัคซีนไฟเซอร์ 275 คน จากจำนวนทั้งหมดกว่า 5 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม คณะผู้เชี่ยวชาญ 3 ทีมซึ่งทำการศึกษาเรื่องนี้พบว่า 95% ของผู้ป่วยที่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมีอาการไม่รุนแรง และใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลไม่เกิน 4 วัน
ผลการศึกษายังสรุปว่า “อาจจะมีความเชื่อมโยง” ระหว่างการฉีดวัคซีน (ไฟเซอร์) โดสที่ 2 กับการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในชายที่อายุระหว่าง 16-30 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชายวัยรุ่นที่อายุระหว่าง 16-19 ปี
บริษัท ไฟเซอร์ ได้มีถ้อยแถลงรับทราบผลการศึกษาของอิสราเอลเกี่ยวกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่ย้ำว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันความเชื่อมโยงของอาการข้างเคียงดังกล่าวกับวัคซีนของไฟเซอร์
เดือนที่แล้ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ได้ออกคำแนะนำให้มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่วัคซีนซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA (รวมถึงวัคซีนของไฟเซอร์และ โมเดอร์นา อิงค์) จะเชื่อมโยงกับการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
ทั้งนี้ ระบบติดตามของ CDC ยังไม่พบจำนวนผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนในสัดส่วนที่มากผิดปกติเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป
อิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครอบคลุมประชากรมากที่สุดในโลก โดยเวลานี้มีผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 55% ซึ่งช่วยให้รัฐสามารถผ่อนคลายกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม และเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง
ที่มา: รอยเตอร์