องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (27 เม.ย.) ตัวกลายพันธุ์โควิด-19 ที่เกรงว่ากำลังเป็นตัวส่งเสริมจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พุ่งทะยานในอินเดีย ถูกพบแล้วในหลายสิบประเทศทั่วโลก
หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ระบุว่า จนถึงวันอังคาร (27 เม.ย.) ตัวกลายพันธุ์ B.1.617 ที่พบครั้งแรกในอินเดีย ถูกตรวจพบในรหัสพันธุกรรม 1,200 ตัวอย่าง “จากน้อยๆ 17 ประเทศ” ที่อัปโหลดสู่ระบบฐานข้อมูลแบบเปิด GISAID
“รหัสพันธุกรรมส่วนใหญ่นั้นอัปโหลดมาจากอินเดีย สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และสิงคโปร์” องค์การอนามัยโลกระบุในการอัปเดตข้อมูลด้านโรคระบาดวิทยารายสัปดาห์ เกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคระบาดใหญ่โควิด-19
เมื่อเร็วๆ นี้องค์การอนามัยโลกขึ้นบัญชี B.1.617 ในฐานะตัวกลายพันธุ์ที่น่าสนใจ แต่ยังไม่ได้ประกาศว่ามันเป็น “ตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวล”
ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียมีการกลายพันธุ์ใน 2 ตำแหน่ง คือ E484Q และ L452R ทั้งนี้ มีพบการกลายพันธุ์ตำแหน่งดังกล่าวแยกกันในไวรัสหลายสายพันธุ์ แต่การกลายพันธุ์ร่วมกันทั้ง 2 ตำแหน่งนั้นพบเฉพาะในไวรัสสายพันธุ์อินเดีย
การขึ้นบัญชีดำว่าเป็นตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวล จะเป็นการบ่งชี้ว่ามันมีความอันตรายมากกว่าไวรัสตัวดั้งเดิม ทั้งแพร่ระบาดได้ง่ายกว่า มีความรุนแรงกว่าหรือสามารถหลบหลีกการป้องกันของวัคซีน
ช่วงปลายเดือนมีนาคม กระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุผลการวิเคราะห์ตัวอย่างชี้ให้เห็นว่า เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่ในอินเดียไม่เหมือนกับสายพันธุ์ที่น่ากังวลอื่นๆ ก่อนหน้านี้ และกำลังศึกษาว่าสายพันธุ์ชนิดใหม่นี้จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น หรือทำให้วัคซีนที่มีอยู่ด้อยประสิทธิภาพลงไปด้วยหรือไม่
อินเดียกำลังเผชิญกับเคสผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีความกังวลมากขึ้นว่าตัวกลายพันธุ์กำลังเป็นตัวส่งเสริมเค้ารางแห่งหายนะ
จำนวนผู้ติดเชื้อที่ปะทุขึ้นในอินเดียซึ่งพบผู้ติดเชื้อใหม่อีกกว่า 350,000 คนเมื่อวันอังคาร (27 เม.ย.) ทำสถิติทะลุ 300,000 คนเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เป็นตัวผลักให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก แตะระดับ 147.7 ล้านคนแล้ว และจนถึงตอนนี้โควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้วกว่า 3.1 ล้านคน
องค์การอนามัยโลกยอมรับว่า โมเดลเบื้องต้นบนพื้นฐานของรหัสพันธุกรรมที่อัปโหลดสู่ GISAID บ่งชี้ว่า “ตัวกลายพันธุ์ B.1.617 มีอัตราการเติบโตมากกว่าตัวกลายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังนเวียนอยู่ในอินเดีย บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่มันจะเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อ”
หน่วยงานแห่งนี้เน้นย้ำว่า ตัวกลายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังวนเวียนในช่วงเวลาเดียวกันก็เพิ่มการแพร่ระจายเชื้อเช่นกัน และเมื่อรวมกัน “บางทีพวกมันอาจกำลังมีบทบาทสำคัญในการแพร่ระบาดระลอกปัจจุบันในประเทศแห่งนี้”
“นอกจากนี้แล้ว ผลการศึกษายังเน้นย้ำว่าการแพร่ระบาดระลอกสองนั้นมีความรวดเร็วมากกว่าระลอกแรกเป็นอย่างมาก” องค์การอนามัยโลกระบุ ขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติบอกว่ายังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สนับสนุนการแพร่ระบาดอันหนักหน่วง ในนั้นรวมถึงผู้คนไม่ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข เช่นเดียวกับการรวมตัวของคนจำนวนมาก
“จำเป็นต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจกับความเกี่ยวข้องของปัจจัยต่างๆ เหล่านี้” องค์การอนามัยโลกระบุ
องค์การอนามัยโลกเน้นย้ำปิดท้ายว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมอย่างเข้มข้น ในคุณลักษณะเฉพาะของ B.1.617 และตัวกลายพันธุ์อื่นๆ ในนั้นรวมถึงผลกระทบของการแพร่เชื้อ ความรุนแรงและความเสี่ยงติดเชื้อซ้ำ
(ที่มา : เอเอฟพี)
