กลุ่มตอลิบานในปากีสถาน ออกมาอ้างความรับผิดชอบเมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) เหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โรงแรมหรูเมืองเควตตา แคว้นบาลูจิสถาน ในช่วงเวลาซึ่งเอกอัครราชทูตจีนและคณะไปพักพอดี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บอีกกว่า 10 คน ด้านปักกิ่งประณามการโจมตีคราวนี้ แม้ทูตของตนไม่ได้อยู่ในโรงแรมขณะเกิดเหตุ และกลุ่มก่อการร้ายนี้ยืนยันว่า เป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปากีสถานก็ตาม
ทางการตำรวจและกระทรวงมหาดไทยปากีสถานแถลงว่า มือระเบิดได้จุดชนวนระเบิดขณะตนเองอยู่ในรถ “คาร์บอมบ์” คันดังกล่าว ซึ่งถูกนำไปจอดอยู่ในที่จอดของโรงแรมเซเรนา ที่เป็นเชนโรงแรม 5 ดาว ซึ่งเป็นที่นิยมของพวกนักการทูตและหน่วยงานบรรเทาทุกข์ ในเมืองเควตตา เมืองหลวงของแคว้นบาลูจิสถาน เมื่อคืนวันพุธ (21) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บ 11 คน
ด้านโฆษกของกลุ่มตอลิบานปากีสถาน ซึ่งมีชื่อเรียกว่า เตห์ริก-อี ตอลิบาน ปากีสถาน (ทีทีพี) แถลงว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายของพวกตนสามารถโจมตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสำเร็จตามแผน
ชีค ราชิด อาเหม็ด รัฐมนตรีมหาดไทยปากีสถานประกาศว่า ปากีสถานจะต่อสู้กับความพยายามของประเทศเพื่อนบ้านในการจัดกำลังกลุ่มทีทีพีใหม่
อิสลามาบัดมักกล่าวหาอินเดียใช้กลุ่มติดอาวุธเข้ามาก่อกวน ซึ่งรวมถึงกลุ่มติดอาวุธในอัฟกานิสถาน เพื่อให้เป็นกองกำลังตัวแทนทำสงครามเงากับปากีสถาน
ทางด้านปักกิ่ง วันพฤหัสฯ (22) หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงประณามว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และเสริมว่า คณะผู้แทนของจีนไม่ได้อยู่ที่โรงแรมดังกล่าวระหว่างเกิดเหตุ
กู่ เวิ่นเหลียง ผู้ช่วยทูตการเกษตรของสถานเอกอัครราชทูตจีนในปากีสถาน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่คณะผู้แทนจีนจะเดินทางไปถึงโรงแรมแห่งนั้นเพียง 10 นาที
ช่วงหลายปีมานี้ ทีทีพีโจมตีสถานที่หลายแห่งทั่วปากีสถานจากฐานบัญชาการตามแนวชายแดนติดกับอัฟกานิสถาน ซึ่งกลายเป็นที่พักพิงของนักรบญิหาดมากมายหลายกลุ่ม รวมถึงอัล-กออิดะห์
อย่างไรก็ตาม การปราบปรามครั้งใหญ่ในปี 2014 ของกองทัพปากีสถาน ซึ่งสร้างความเสียหายให้โครงสร้างการบัญชาการและควบคุมของทีพีพี ทำให้การก่อเหตุโจมตีลดลงอย่างมาก
นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ประกาศว่า ปากีสถานจะไม่ยอมให้ปีศาจร้ายกลุ่มนี้กลับมาอาละวาดอีก และขณะนี้กำลังเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกและจับตาภัยคุกคามจากทั้งภายในและภายนอก
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า ปากีสถานยังไม่ได้ลงมือจัดการรากเหง้าของลัทธิสุดโต่ง
บาลูจิสถานเป็นแคว้นใหญ่ที่สุดและยากจนที่สุดของปากีสถานแม้อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติก็ตาม
การที่เม็ดเงินของจีนหลายพันล้านดอลลาร์ไหลเข้าลงทุนในแคว้นนี้ผ่านโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน (ซีเปก) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากเนื่องจากคนในพื้นที่ได้รับประโยชน์เพียงเล็กน้อย แต่ตำแหน่งงานส่วนใหญ่กลับไปจ้างคนภายนอก
ในปี 2019 เกิดเหตุมือปืนบุกโรงแรมหรูที่มองเห็นวิวท่าเรือน้ำลึก ซึ่งเป็นโครงการเรือธงของซีเปกในเมืองกวาดาร์ ที่ทำให้จีนเข้าถึงทะเลอาหรับ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน
เดือนมิถุนายน ตลาดหุ้นปากีสถาน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นของบริษัทจีน ถูกโจมตี โดยกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า กองทัพปลดแอกบาลูจิสถาน ออกมาอ้างความรับผิดชอบในทั้งสองเหตุการณ์นี้
เหตุระเบิดล่าสุดยังเกิดขึ้นหลังจากพรรคเตห์ริก-ไอ-ลาบาอิก ปากีสถาน (ทีแอลพี) ที่มีแนวคิดสุดโต่งและต่อต้านพวกนอกรีต จัดการประท้วงที่ลุกลามเป็นความรุนแรง เพื่อเรียกร้องให้ขับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสออกนอกประเทศ เนื่องจากไม่พอใจที่ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ปกป้องสิทธิ์นิตยสารแนวเสียดสีที่นำภาพการ์ตูนศาสดามูฮัมหมัดมาเผยแพร่ซ้ำ ซึ่งคนมุสลิมถือว่า เป็นการกระทำนอกรีต
ต้นสัปดาห์นี้ กลุ่มตอลิบานในปากีสถาน ซึ่งแม้ไม่มีอุดมการณ์เกี่ยวข้องกับทีแอลพี ได้ออกคำแถลงสนับสนุนการประท้วงของพรรคการเมืองนี้
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)