ปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำลำหนึ่งของอินโดนีเซียที่สูญหายไปพร้อมกับลูกเรือ 53 คน เดินหน้าต่อเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) หลังทีมกู้ภัยพบคราบน้ำมันใกล้บริเวณที่เรือดำลง ในขณะที่บรรดาประเทศเพื่อนบ้านประกาศให้ความช่วยเหลือ
เรือดำน้ำกองทัพอินโดนีเซีย อายุ 44 ปี เคอาร์ไอ นังกาลา-402(KRI Nanggala-402) อยู่ระหว่างการฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโด บริเวณน่านน้ำทางเหนือนอกชายฝั่งเกาะบาหลีเมื่อวันพุธ (21 เม.ย.) แต่เกิดสูญหายไร้ร่องรอย โดยไม่ได้ส่งสัญญาณแจ้งตามที่คาดหมาย โฆษกกองทัพเรือระบุ
จากการบินสำรวจทางอากาศพบคราบน้ำมันใกล้จุดที่เรือดำน้ำดำลงไป และเรือของกองทัพเรือ 2 ลำที่ติดตั้งเครื่องโซนาร์ ถูกส่งเข้าช่วยเหลือปฏิบัติการค้นหา กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียระบุ พร้อมเผยว่าพวกเขายังได้ส่งคำขอความอนุเคราะห์ไปยังออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งทั้งหมดตอบรับเข้าช่วยเหลือ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอบีซีในวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ว่ากองกำลังป้องกันตนเองของออสเตรเลียจะให้ความช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
“เรามีกองเรือดำน้ำที่ต่างจากเรือดำน้ำลำดังกล่าวอย่างมาก แต่กองกำลังป้องกันตนเองของออสเตรเลียและกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียจะทำร่วมกับปฏิบัติการป้องกันตนเองในอินโดนีเซีย เพื่อสรุปว่ามีอะไรบ้างที่เราสามารถทำได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียระบุ
ฮาร์ดี ทยาห์ยันโต ผู้บัญชาการทหารของอินโดนีเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือในวันพุธ (21 เม.ย.) เรือดำน้ำขาดดารติดต่อตอนเวลา 04.30 น. และกำลังดำเนินหน้าค้นหาเรือดำน้ำกับลูกเรือ 53 คน ในมหาสมุทร ห่างจากชายฝั่งเกาะบาหลี ประมาณ 96 กิโลเมตร
กองทัพเรือระบุในถ้อยแถลงว่า “มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดไฟดับตอนที่เรือดำน้ำดำลง ดังนั้นจึงสูญเสียการควบคุมและขั้นตอนฉุกเฉินไม่สามารถดำเนินการได้ จากนั้นเรือก็หล่นสู่ความลึก 600-700 เมตร”
ข้อสันนิษฐานดังกล่าวก่อความกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเผยว่าเรือดำน้ำลำนี้สามารถต้านทานแรงดันต่อเนื่อง ณ ความลึกสุดแค่ราวๆ 250 เมตรเท่านั้น
ขณะเดียวกัน กองทัพเรือยังสันนิษฐานว่าคราบน้ำมันที่พบบริเวณพื้นผิวทะเลอาจหมายความว่าเรือดำน้ำอาจเกิดความเสียหายบริเวณถังเชื้อเพลิง แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่ามันจะเป็นการส่งสัญญาณจากลูกเรือ
จากข้อมูลของกระทรวงกลาโหม ระบุว่า เรือดำน้ำเคอาร์ไอ นังกาลา-402 ซึ่งมีน้ำหนัก 1,395 ตัน ถูกสร้างในเยอรมนีในปี 1977 และเข้าประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซียในปี 1981 มันเคยผ่านการยกเครื่องปรับปรุงเป็นเวลา 2 ปีในเกาหลีใต้ ซึ่งแล้วเสร็จในปี 2012
ในอดีตอินโดนีเซียเคยมีกองเรือดำน้ำ 12 ลำที่ซื้อจากสหภาพโซเวียตมาใช้ลาดตระเวนในน่านน้ำรอบหมู่เกาะกว้างไกลของประเทศ แต่ปัจจุบันอินโดนีเซียเหลือเรือดำน้ำเพียง 5 ลำ รวมถึง 2 ลำที่เป็นเรือดำน้ำแบบ 209 ที่ต่อโดยเยอรมนี และเรือดำน้ำใหม่ 3 ลำจากเกาหลีใต้
อินโดนีเซียกำลังหาทางยกระดับศักยภาพด้านป้องกันตนเองให้มีความทันสมัย แต่ยุทโธปกรณ์บางอย่างนั้นมีอายุเก่าเก็บ และเคยเกิดอุบัติเหตุเสียเลือดเนื้อหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
(ที่มา : รอยเตอร์)