xs
xsm
sm
md
lg

ตึงเครียดหนัก! จีนส่งเครื่องบินรุกน่านฟ้า ‘ไต้หวัน’ พร้อมกัน 25 ลำ ชุดใหญ่สุดในรอบหลายเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เครื่องบินขับไล่ J-16 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (ภาพ :Taiwan Defense Ministry)
จีนส่งเครื่องบินทหาร 25 ลำเข้าไปในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันเมื่อวันจันทร์ (12 เม.ย.) ซึ่งถือเป็นการบุกรุกน่านฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว

ปฏิบัติการของจีนมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่าวอชิงตันมีพันธกรณีที่จะต้องปกป้องความมั่นคงให้แก่ไต้หวัน เกาะซึ่งจีนยังคงถือว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนเอง

กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า ฝูงบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ที่ถูกส่งไปกระทำภารกิจคราวนี้ ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ J-16 จำนวน 14 ลำ, เครื่องบินขับไล่ J-10 จำนวน 4 ลำ, เครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K จำนวน 4 ลำ, เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ 2 ลำ และเครื่องบินแจ้งเตือนทางอากาศ (airborne early warning and control plane) อีก 1 ลำ

ไต้หวันตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นสกัด, เปิดระบบป้องกันขีปนาวุธ และออกคำเตือนผ่านคลื่นวิทยุไปยังฝูงบินจีนว่าพวกเขากำลังรุกล้ำเขต ADIZ ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน

ภาพกราฟฟิกที่กระทรวงกลาโหมไต้หวันเผยแพร่แสดงให้เห็นเส้นทางของฝูงบินจีนซึ่งมุ่งหน้ามาจากทางแผ่นดินใหญ่ ก่อนจะหันหัว 180 องศากลับไปยังทิศทางที่มา ระหว่างเกาะไต้หวันกับเกาะปราตัส (Pratas Island) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฮ่องกง

ตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2020 เป็นต้นมา ไต้หวันเริ่มมีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอากาศยานของจีนที่บินเข้ามาเฉียดใกล้เกาะ โดยการบุกรุกน่านฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งจีนได้ส่งเครื่องบินทหารเข้าไปพร้อมกันถึง 20 ลำ

สัปดาห์ที่แล้ว จีนเพิ่งจะส่งเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงเข้าไปปฏิบัติภารกิจซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวัน โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่กองทัพ PLA “กระหนาบ” ไต้หวันด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงพร้อมหมู่เรือคุ้มกันทางฝั่งตะวันออก และยังส่งฝูงบินรบเข้าไปยังเขต ADIZ ของไต้หวันทางฝั่งตะวันตกในเวลาเดียวกัน

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การซ้อมรบเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเตือนไปยังไทเปและวอชิงตันว่าจีนจะไม่มีวันยอมให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราช และพร้อมที่จะใช้กำลังทหารเข้าสกัดกั้นหากถึงคราวจำเป็น

ที่มา: CNN


กำลังโหลดความคิดเห็น