ราคาน้ำมันปรับลด 2 วันติดในวันพุธ (21 เม.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ จากคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ และความกังวลโควิด-19 ปัจจัยหลังนี้ดันทองคำปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง จากแรงช้อนซื้อแข็งแกร่งของนักลงทุน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.32 ปิดที่ 61.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อินเดีย เมื่อวันพุธ (21 เม.ย.) รายงานพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวัน สูงสุดรอบใหม่นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด สถานการณ์ดังกล่าวก่อความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน เนื่องจากพวกเขาเป็นชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก
ขณะเดียวกัน สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (21 เม.ย.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ เพิ่มขึ้นผิดคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 549,000 บาร์เรล เป็น 493 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงราวๆ 3 ล้านบาร์เรล
ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายในอินเดีย บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผลักนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันพุธ (21 เม.ย.) ปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 14.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,793.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (21 เม.ย.) พุ่งแรง จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังดิ่งลงหนัก 2 วันก่อนหน้านี้ เมินรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเน็ตฟลิกซ์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 316.01 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,137.31 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 38.48 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,173.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 163.95 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,950.22 จุด
ตลาดฟื้นตัวแรงหลังจากดิ่งลงหนัก 2 วันติดก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลว่าเกี่ยวกับมูลค่าสูงเกินจริง และความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในอินเดียและประเทศอื่นๆ
เกือบทุกภาคในวันพุธ (21 เม.ย.) ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง ในนั้นรวมถึงบริษัทอุตสาหกรรมทั้งหลายอย่างเช่น แคทเธอร์พิลลาร์ บริษัทน้ำมันต่างๆ รวมถึงเอ็กซอนโมบิล และแบงก์ออฟอเมริกา ยักษ์ใหญ่ด้านการเงิน
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)