คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของยุโรป กำลังทบทวนเคสลิ่มเลือดอุดตันในประชาชน 4 รายในสหัฐฯ หลังได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในนั้น 1 รายถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนใดๆ
องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เผยว่า มีรายงานเคสลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือดต่ำ 3 เคส เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ระหว่างการจ่ายวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งผลิตโดย แจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอลส์ บริษัทยุโรปในเครือของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และมีรายงานพบผู้เสียชีวิต 1 รายจากลิ่มเลือดอุดตันระหว่างการทดลองทางคลินิก
รายงานขององค์การยาแห่งยุโรปครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพาดพิงถึงการตรวจสอบเคสลิ่มเลือดอุดตันที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เผยว่า รับทราบรายงานที่พบน้อยมากเกี่ยวกับเคสลิ่มเลือดอุดตันแล้ว และเวลานี้อยู่ระหว่างทำงานร่วมกับคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบ
“ในตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยมากกับวัคซีนโควิด-19 ของแจนส์เซน” ทางบริษัทระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์
ด้านสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ เผยเช่นกันว่า ทราบประเด็นลิ่มเลือดอุดตันหลังใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแล้ว และไม่พบเช่นกันว่ามันมีความสัมพันธ์เชิงสาเหตุกับวัคซีน
จนถึงเช้าวันพฤหัสบดี (8 เม.ย.) มีประชาชนเกือบ 5 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่ได้รับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันไปแล้ว
วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แตกต่างจากวัคซีนโควิดอื่นๆ อย่างของไฟเซอร์, โมเดอร์นา และแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดเพียงโดสเดียวต่อคน ขณะที่เจ้าอื่นต้องฉีดวัคซีน 2 โดส
ก่อนหน้านี้มีรายงานเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ในบรรดาผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าในยุโรป และมันอยู่ภายใต้การตรวจสอบทบทวนเช่นกัน ทั้งนี้ บางประเทศภายในยุโรปได้จำกัดอายุขั้นต่ำของผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันมักพบในผู้ฉีดวัคซีนที่อายุยังน้อย
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์, รอยเตอร์)