อ้าว! อียูโยนแต่ละชาติตัดสินใจเองใช้วัคซีนโควิด “แอสตร้าเซนเนก้า” ส่อโยงภาวะลิ่มเลือดอุดตันจริง

ประเทศต่างๆ ในยุโรปควรตัดสินใจเองว่าจะจัดการอย่างไรกับความเสี่ยงภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมาก จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า บนพื้นฐานของอัตราการติดเชื้อและการเข้าถึงวัคซีนตัวอื่นๆ คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของอียูระบุในวันพุธ (7 เม.ย.) หลังพบความเป็นไปได้ที่วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจะมีความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในสมองในบางราย

หลายประเทศในยุโรปแถลงข้อจำกัดต่างๆ สำหรับใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในคนหนุ่มสาว หลังจากพบความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่หาได้ยาก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้หญิงอายุต่ำกว่า 60 ปี ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากได้รับวัคซีน

สเปน เป็นประเทศล่าสุดที่เปลี่ยนนโยบาย โดยเผยว่าพวกเขาจะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เฉพาะกับบุคคลที่มีอายุเกิน 60 ปีเท่านั้น หลังจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของทั้งสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร พบความเกี่ยวข้องระหว่างวัคซีนกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ อิตาลีก็ปรับเปลี่ยนนโยบายในแบบเดียวกัน แต่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว สามารถรับวัคซีนโดสที่ 2 ได้ต่อไป ส่วนสหราชอาณาจักรระบุว่าบุคคลอายุต่ำกว่า 30 ปี ควรฉีดวัคซีนตัวอื่นแทน

อย่างไรก็ตาม ทางองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป(EMA) ระงับออกคำแนะนำ โดยระบุว่าประเทศต่างๆ จะเป็นผู้ประเมินสมดุลความเสี่ยงด้วยตนเอง บนพื้นฐานของสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่

“เราพยายามมอบข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในด้านประโยชน์ของความเสี่ยงต่างๆ ที่เราพบ บนพื้นฐานดังกล่าวและสถานการณ์ของโรคระบาดใหญ่ในแต่ละรัฐสมาชิก ทั้งอัตราการติดเชื้อและการเข้าถึงวัคซีนตัวอื่นๆ รัฐสมาชิกแต่ละชาติสามารถตัดสินใจต่างกันว่าใครควรได้รับวัคซีน” อีเมอร์ คุ้ก ผู้อำนวยการบริหารบริหารขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป กล่าวระหว่างแถลงสรุป

คุ้ก เน้นย้ำว่าความเสี่ยงเสียชีวิตจากโควิด-19 นั้น มีมากกว่าความเสี่ยงเสียชีวิตจากผลข้างเคียงของวัคซีนต้านไวรัสโคโรนานาสายพันธุ์ใหม่หลายเท่า “มันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เราต้องใช้วัคซีนต่างๆ ที่เรามี ในความพยายามเอาชนะโรคระบาดใหญ่ตัวนี้” เธอกล่าว

ซาบิน สเตราส์ คณะกรรมการด้านความปลอดภัยขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป ระบุว่า ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนไม่ใช่เรื่องผิดคาดแต่อย่างใด เนื่องจากครั้งนี้เป็นการฉีดวัคซีนในขอบเขตที่กว้างขวางมาก

สเตราส์ เผยว่า จนถึงวันที่ 4 เมษายน ทางองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปได้รับรายงานเคสภาวะหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน (cerebral sinus vein thrombosis - CSVT) จำนวน 169 เคส จากผู้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 34 ล้านโดสในเขตเศรษฐกิจยุโรป

นอกจากนี้แล้วยังพบเคสภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หลังฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 3 เคส อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญบอกกับรอยเตอร์ว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเหตุการณ์เหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่

(ที่มา : รอยเตอร์)