ผู้ช่วยระดับสูงของราชวงศ์จอร์แดนรายหนึ่ง เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยหลายคนที่ถูกจับกุมเมื่อวันเสาร์ (3 เม.ย.) ขณะที่กองทัพเตือนพระอนุชาต่างพระมารดาของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์แห่งจอร์แดน กำลังก่อความเสียหายแก่ความมั่นคงของประเทศ
วิดีโอโพสต์บนโลกออนไลน์เป็นภาพกองกำลังตำรวจจำนวนมาก ถูกส่งเข้าประจำการในพื้นที่ดาบูด ใกล้กับสำนักพระราชวัง ในขณะที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า เจ้าชายฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน อดีตมกุฎราชกุมาร อยู่ภายใต้ข้อจำกัด ส่วนหนึ่งของการสืบสวนคำกล่าวอ้างวางแผนโค่นอำนาจกษัตริย์
“ความเคลื่อนไหวถูกพบในสิ่งที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ระบุว่า เป็นแผนการที่ซับซ้อนและกว้างขวางมาก” วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงในตะวันออกกลาง
ในเวลาต่อมา เจ้าชายฮัมซาห์ เปิดเผยว่า ทรงถูกกักบริเวณ แต่ปฏิเสธว่ามิได้เป็นหนึ่งของการสมคบคิดใดๆ ต่อต้านสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 แม้พระองค์วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดต่อปัญหาคอร์รัปชันในรัฐบาล
วิดีโอที่ถูกส่งถึงสำนักข่าวบีบีซี เจ้าชายฮัมซาห์บอกว่า เลขาธิการทหารที่เข้าเฝ้าฯพระองค์ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ได้แจ้งกับพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก ติดต่อสื่อสารกับผู้คนหรือพบปะกับพวกเขา”
พระองค์เผยว่า พระสหายของพระองค์จำนวนหนึ่งถูกจับ มาตรการรักษาความปลอดภัยพระองค์ถูกปลด อินเทอร์เน็ตและสายโทรศัพท์ถูกตัด
อย่างไรก็ตาม เจ้าชายยืนยันยันพระองค์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสมคบคิด “ไม่ใช่เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบการบริหารงานที่ล้มเหลว ไม่ใช่ผู้ต้องรับผิดชอบปัญหาคอร์รัปชันและไร้ความสามารถ ซึ่งพบเห็นดาษดื่นในโครงสร้างบริหารของเรามานานกว่า 15 ถึง 20 ปีแล้ว และมันกำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ”
เจ้าชายฮัมซาห์ เป็นพระโอรสองค์โตของอดีตกษัตริย์ฮุสเซนผู้ล่วงลับ กับสมเด็จพระราชินีนูร์ พระชายาเชื้อสายอเมริกัน โดยอย่างเป็นทางการแล้ว พระองค์ทรงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ และเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีความใกล้ชิดกับบรรดาผู้นำชนเผ่าทั้งหลาย
สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ทรงแต่งตั้งเจ้าชายฮัมซาห์ พระอนุชาต่างพระมารดา เป็นมกุฎราชกุมาร ตามความประสงค์ของอดีตกษัตริย์ฮุสเซน แต่ในปี 2004 ได้ปลดบรรดาศักดิ์ของเจ้าชายฮัมซาห์ แล้วมอบมันให้แก่ ฮุสเซน พระโอรสองค์โตของพระองค์เอง
วอชิงตันโพสต์รายงานว่า แผนการที่กล่าวอ้างกันนั้น มีเชื้อพระวงศ์พระองค์รายอื่นๆ ของจอร์แดนอย่างน้อยๆ 1 พระองค์เข้าร่วมด้วย เช่นเดียวกับบรรดาผู้นำชนเผ่าทั้งหลายและสมาชิกสถาบันความมั่นคงของประเทศ
เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันกำลังจับตารายงานข่าวนี้อย่างใกล้ชิด “เรากำลังติดต่อกับเจ้าหน้าที่จอร์แดน กษัตริย์อับดุลลาห์ทรงเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ และเขาได้รับการสนับสนุนจากเราอย่างเต็มที่”
พลตรี ยูเซฟ ฮููเนติ หัวหน้าเสนาธิการทหารร่วมของจอร์แดน ปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่า เจ้าชายฮัมซาห์ ถูกควบคุมตัว “สิ่งที่สื่อมวลชนเผยแพร่เกี่ยวกับการจับกุมเจ้าชายฮัมซาห์นั้นไม่เป็นความจริง แต่เจ้าชายถูกขอให้หยุดความเคลื่อนไหวบางอย่าง ซึ่งอาจถูกใช้บ่อนทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงของจอร์แดน”
เปตรา สื่อมวลชนของทางการ ระบุว่า บาสเซม อวาดอลลาห์ ประธานศาลยุติธรรมในปี 2007-2008 และ เชอรีฟ ฮัสซัน ซาอิด เป็นหนึ่งในหลายคนที่ถูกจับกุมตัว แต่ไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่าทั้งคูู่ถูกควบคุมตัวในเหตุผลด้านความมั่นคง หลังมีความใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติการรายหนึ่ง
การกวาดล้างด้านความมั่นคงเมื่อวันเสาร์ (3 เม.ย.) เกิดขึ้นในขณะที่จอร์แดน เตรียมฉลองวาระครบ 100 ปี นับตั้งแต่ประเทศใหม่ที่ตอนนั้นชื่อ ทรานส์จอร์แดน ถูกก่อตั้งขึ้นเคียงข้างปาเลสไตน์ภายใต้อาณัติของสหราชอาณาจักร
พวกเขาประกาศเอกราชในปี 1946 และแม้มีความมั่งคั่งทางน้ำมันแค่เล็กน้อย ขาดน้ำอย่างรุนแรง และถูกสั่นคลอนจากสงครามต่างๆ นานา ตามแนวชายแดนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สุดท้ายจอร์แดนก็อยู่รอดมาได้
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศวาระครบรอบ 100 ปี จะเป็นไปอย่างเงียบเหงา
สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ ขึ้นครองราชย์ในปี 1999 หลังการสวรรคตของอดีตกษัตริย์ฮัสเซน พระราชบิดาของพระองค์ โดยพระองค์ใช้คำขวัญ “จอร์แดนต้องมาก่อน” และ “เราทุกคนคือจอร์แดน” เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
(ที่มา: เอเอฟพี)