ราคาน้ำมันทรงตัวในวันจันทร์ (22 มี.ค.) ความหวังอุปสงค์ฟื้นตัวในช่วงในปี ช่วยชะลอแรงเทขาย แต่ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรป ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลด ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนฉุดให้ทองคำขยับลงเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 13 เซ็นต์ ปิดที่ 61.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 9 เซ็นต์ ปิดที่ 64.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันทั้งสองสัญญาลดลงมากว่า 6% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตามแรงหนุนปรับลดกำลังผลิตและความคาดหมายอุปสงค์ฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม ตลาดมีความกังวลทางอุปสงค์รอบใหม่ หลังประชาชนเกือบ 1 ใน 3 ของฝรั่งเศสเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เป็นเวลา 1 เดือนในวันเสาร์ (20 มี.ค.) ส่วนเยอรมนีมีแผนขยายมาตรการล็อกดาวน์เข้าสู่เดือนที่ 5
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร เตือนเมื่อวันจันทร์ (22 มี.ค.) ว่า การแพร่รบาดระลอก 3 ของไวรัสโคโรนาสาายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเล่นงานทั่วยุโรป อาจกำลังมุ่งหน้าสู่สหราชอาณาจักร
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (22 มี.ค.) ปิดบวก การปรับลดของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอเมริกา ช่วยพยุงวอลล์สตรีทจากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ที่น่าผิดหวัง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 103.23 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,731.20 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 27.49 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,940.59 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 162.31 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,377.54 จุด
บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก และเทสลา ดีดตัวขึ้น หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นและภาะวะเงินเฟ้อ ถ่วงรั้งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมาตลอดเกือบไตรมาสแรก
นักลงทุนได้แรงหนุนจากผลการทดลองในแง่บวกในสหรัฐฯ ของวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า แต่อีกด้านหนึ่งก็ถูกฉุดรั้งจากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์
ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐฯลดลง 6.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ อ่อนแอกว่าที่คาดหมาย หลังสต๊อกบ้านตึงตัวดันราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้น ผลักผู้ซื้อหนีหาย
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ฉุดราคาทองคำในวันจันทร์ (22 มี.ค.) ปิดลบในกรอบแคบๆ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,738.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(รอยเตอร์/เอเอฟพี)