สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงระงับการรีดภาษีสินค้าระหว่างกันมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เป็นระยะเวลา 4 เดือน พร้อมเสนอให้มีการร่วมหาทางออกในระยะยาวเพื่อรับมือการแข่งขันกับ “จีน” ด้วย
แถลงการณ์ร่วมจากทั้ง 2 ฝ่ายระบุว่า การระงับรีดภาษีเป็นระยะเวลา 4 เดือนนี้ จะครอบคลุมทั้งในส่วนของภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าอียูมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์ และภาษีที่ฝ่ายอียูเรียกเก็บจากสินค้าอเมริกัน 4,000 ล้านดอลลาร์ อันมีที่มาจากข้อพิพาทเรื่องนโยบายอุดหนุนผู้ผลิตอากาศยาน ‘โบอิ้ง’ และ ‘แอร์บัส’ ที่เป็นประเด็นยืดเยื้อมานาน 16 ปี
สหรัฐฯ และอียู มองว่า มาตรการผ่อนปรนนี้จะช่วยลดภาระให้แก่ภาคอุตสาหกรรมและแรงงาน รวมถึงเปิดทางไปสู่การแสวงหาทางออกร่วมกัน
นอกเหนือจากมาตรการสนับสนุนและการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพแล้ว องค์ประกอบสำคัญในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ กับอียูยังจะต้องตอบสนอง “พฤติกรรมบิดเบือนการค้า และความท้าทายต่างๆ ที่มาจากประเทศซึ่งไม่ได้ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบการตลาด (non-market economies) อย่างเช่น จีน”
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ข้อตกลงเบรกภาษีเกิดขึ้นหลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และ อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป
ทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนได้เน้นย้ำการสนับสนุนอียู และแสดงความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความเป็นหุ้นส่วนกัน ในขณะที่ ฟอน เดอร์ เลเยน ก็กล่าวชื่นชมข้อตกลงกับสหรัฐฯ ว่าเป็น “ข่าวดีเยี่ยม” สำหรับภาคธุรกิจทั้ง 2 ฟากฝั่งแอตแลนติก และยังเป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งบอกถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่จะมีขึ้นตลอดหลายปีข้างหน้า
สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงลิ่วกับสินค้ายุโรปหลายประเภท เช่น เครื่องบินและชิ้นส่วนอากาศยาน, ไวน์และแยมจากฝรั่งเศส/เยอรมนี, มะกอกสเปน, กาแฟเยอรมัน, ไขควงไฟฟ้า (screwdrivers) รวมไปถึงสุรา, ชีส และเนื้อหมูจากประเทศต่างๆ ทั่วอียู ในขณะที่ฝ่ายอียูเองก็ตอบโต้ด้วยการรีดภาษีเครื่องบินและชิ้นส่วนอากาศยานจากสหรัฐฯ ตลอดจนยาสูบ, ถั่ว, มันฝรั่งหวาน, เหล้ารัม, วอดก้า, เครื่องออกกำลังกาย, รถแทรกเตอร์ และเครื่องจักรกลสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างอื่นๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ มาตรการรีดภาษีทั้ง 2 ฝั่งจะถูกระงับหลังจากที่มีประกาศอย่างเป็นทางการ ถึงคาดว่าจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังถือเป็นผลดีสำหรับโบอิ้ง ซึ่งเริ่มส่งมอบเครื่องบินรุ่น 737 MAX ให้กับสายการบินลูกค้าในยุโรปได้อีกครั้ง หลังจากที่คำสั่งระงับบินทั่วโลกได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือน ม.ค.
ด้านสภาผู้ผลิตสุรากลั่นแห่งสหรัฐฯ (Distilled Spirits Council) ระบุว่า แม้ข้อตกลงระงับภาษีคราวนี้จะช่วย “ผ่าทางตัน” ได้บ้าง แต่ทางสภายังรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่ “อเมริกันวิสกี้” จะยังถูกอียูรีดภาษีนำเข้าในอัตรา 25% ต่อไป เนื่องจากเป็นผลมาจากข้อพิพาทกรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม
ที่มา: รอยเตอร์