xs
xsm
sm
md
lg

‘จอห์น แมคอาฟี’ ผู้พัฒนาแอนติไวรัส McAfee โดนข้อหาฉ้อโกง-ฟอกเงินจากการโปรโมต ‘เงินคริปโต’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จอห์น แมคอาฟี นักธุรกิจผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สแกนไวรัสชื่อดัง McAfee ถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาสมคบคิดฉ้อโกงและฟอกเงินจากพฤติกรรมโปรโมตเงินคริปโต

แมคอาฟี และ จิมมี เกล วัตสัน จูเนียร์ ซึ่งเป็นบอดีการ์ดส่วนตัวของเขา ถูกอัยการตั้งข้อหาโปรโมตเงินคริปโตต่อบรรดาผู้ติดตามทางทวิตเตอร์เพื่อปั่นราคาให้สูงเกินจริง จากนั้นก็จะมีการเทขาย ซึ่งกลยุทธ์ที่เรียกกันว่า ‘pump and dump’ นี้สร้างรายได้ให้กับทั้งคู่มากถึง 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ แมคอาฟี ยังปกปิดเงินค่าจ้างที่ได้รับจากบริษัทสตาร์ทอัปที่ขอให้เขาช่วยโปรโมตการเสนอขาย initial coin offering หรือ ICO

แมคอาฟี วัย 75 ปี ถูกจับที่สเปนเมื่อปีที่แล้ว หลังโดนสหรัฐฯ ออกหมายจับฐานเลี่ยงภาษี ซึ่งเจ้าตัวยังคงปฏิเสธ แต่คาดว่าจะถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ เร็วๆ นี้

สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินถูกยื่นฟ้องต่อศาลแขวงแมนฮัตตันที่นครนิวยอร์ก โดย แมคอาฟี และบอดีการ์ดถูกกล่าวหาว่าซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโต ก่อนจะโพสต์ข้อความโปรโมตลงในทวิตเตอร์ ซึ่ง แมคอาฟี มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน

เมื่อราคาพุ่งสูงขึ้นจนเป็นที่พอใจ ทั้งคู่ก็จะเทขายทรัพย์สินดังกล่าว ตามข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ (Commodity Futures Trading Commission)

แอนดี สโตรสส์ อัยการซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีนี้ ระบุว่า พฤติกรรมของบุคคลทั้งสอง “เข้าข่ายฉวยโอกาสใช้โซเชียลมีเดียและความกระตือรือร้นของนักลงทุนต่อตลาดเงินคริปโตทำการโกหกหลอกลวง เพื่อแสวงหารายได้นับล้านๆ ดอลลาร์”

แมคอาฟี เคยถูกทางการสหรัฐฯ ออกหมายจับเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เนื่องจากไม่ยื่นเรื่องเสียภาษีในช่วงระหว่างปี 2014-2018 นอกจากนี้ อัยการยังพบว่าเขาพยายามปกปิดการถือครองทรัพย์สินโดยใช้ชื่อบุคคลอื่นแทน

แมคอาฟี ก้าวขึ้นมามีบทบาทในแวดวงธุรกิจเมื่อช่วงทศวรรษ 1980 จากการเปิดตัว McAfee VirusScan ซอฟต์แวร์ต่อต้านไวรัสเชิงพาณิชย์ตัวแรก ซึ่งเติบโตจนกลายมาเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

แม้จะขายกิจการบริษัท McAfee ให้กับค่าย Intel ไปแล้วเมื่อปี 2017 แต่ แมคอาฟี ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ตัวอื่นๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: BBC, รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น