บริษัท ท็อปโกลฟ ของมาเลเซีย ผู้ผลิตถุงมือเกรดการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบุในวันเสาร์ (6) ว่า ลูกจ้างบางส่วนในโรงงาน 4 แห่งถูกตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อไม่นานมานี้
ถึงแม้ว่าบริษัทแห่งนี้จะไม่ได้ระบุว่ามีการตรวจเชื้อไปกี่คนหรือจะได้รับผลตรวจเมื่อไหร่ แต่ข่าวนี้ออกมาหลังจากคนงานต่างชาติกว่า 5,000 คนที่ ท็อป โกลฟ ติดเชื้อเมื่อปลายปีที่แล้วและหนึ่งคนเสียชีวิตท่ามกลางรอบการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย
ลูกจ้างทั้งหมดของหนึ่งในสี่โรงงานเข้ารับการคัดกรองและผู้ต้องสงสัยต้องอยู่ภายใต้การกกักตัว ขณะที่การคัดกรองครั้งใหญ่กำลังจะมีขึ้นที่โรงงานอีกแห่งในวันเสาร์ (6) บริษัทนี้ ระบุในถ้อยแถลง
การตามรอยผู้ต้องสงสัยและการคัดกรองผู้ใกล้ชิดกำลังเกิดขึ้นที่โรงงานอีกสองแห่ง บริษัท ระบุเสริม
บริษัทแห่งนี้ ระบุว่าา คณะกรรมการผู้บริหารกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและได้มีการหารือกับทีมบริหารจัดการทุกๆ วัน
"เราต้องการทำให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่า เรากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับประกันความปลอดภัยและสวัสดิภาพของลูกจ้าง และเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19" บริษัทนี้ ระบุ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แบล็กร็อก บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตำหนิคณะกรรการบริหารของบริษัทนี้เรื่องความล้มเหลวในการปกป้องคนงานจากเชื้่อไวรัส และคัดค้านการดำรงตำแหน่งต่อของผู้บริหารบางคน แต่บริษัทท็อปโกลฟออกมาปกป้องคณะกรรมการบริหาร
บริษัท BlackRock Institutional Trust Co บริษัทย่อยของแบล็กร็อก เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสิบของ ท็อป โกลฟ ถือหุ้นของบริษัทนี้อยู่ 1.07 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเดือนที่แล้ว รอยเตอร์รายงานว่า ท็อปโกลฟไล่ออกคนเปิดเผยข้อมูลคนหนึ่งที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการขาดความพยายามป้องกันเชื้อไวรัสของบริษัท คนงานหลายคนยังบอกรอยเตอร์ด้วยว่า พวกเขาอาศัยในหอพักที่แออัดมาก
ท็อปโกลฟ ยอมรับว่า จำเป็นจะต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้เพื่อยกระดัยมาตรฐานสวัสดิภาพลูกจ้างและสัญญาว่าแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ
ที่มา - รอยเตอร์