xs
xsm
sm
md
lg

รวยแค่ไหนก็ไม่รอด! โควิด-19 คร่าชีวิตแม่อภิมหาเศรษฐี ยอดติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 90 ล้านคน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฟ้มภาพจากเอเอฟพี
อีฟ แบรนสัน มารดาของ ริชาร์ด แบรนสัน อภิมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งเวอร์จิน กรุ๊ป เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในวัย 96 ปี ตามการแถลงของบุตรชายในวันจันทร์ (11 ม.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงหนักหน่วงทั่วทุกหัวระแหง ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเกิน 90 ล้านคนแล้ว

ในบล็อกโพสต์แจ้งข่าวการเสียชีวิต แบรนสัน เผยว่ าแม่ของเขา “พยายามยืนหยัดเพื่อคว้าชัยชนะเป็นครั้งท้ายสุด ในการต่อสู้ขจัดไวรัส แต่เธอสูญสิ้นทุกพลังงานในการต่อสู้ครั้งนี้” พร้อมเล่าว่า น้องสาวและหลาน อยู่เคียงข้างแม่ “จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย”

แบรนสัน ได้เขียนเล่าว่า แม่ของเขาพร่ำสอนลูกๆ หลานๆ ถึง “ความสำคัญของการทำงานหนักแต่อย่าจริงจังเกินไป อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติกับคุณเยี่ยงไร ก็ควรปฏิบัติตัวกับผู้อื่นเยี่ยงนั้น และอื่นๆ อีกมากมาย”

มหาเศรษฐีรายนี้บอกว่า แม่ของเขา “มักทำงานในโครงการใดโครงการหนึ่งมาตลอดตั้งแต่เขายังเด็ก และเธอมีความคิดริเริ่ม ไม่เคยหวั่นกลัว ทนทรหด และเป็นผู้ประกอบการ ตั้งแต่ก่อนที่จะมีคำๆ นี้ด้วยซ้ำ”

นอกจากนี้แล้ว แบรนสัน ยังให้เครดิตแม่ของเขา ในฐานะเป็นผู้มีส่วนร่วมในจุดเริ่มต้นของกลุ่มบริษัท เวอร์จิน ด้วยการมอบเงิน 100 ปอนด์ จากการขายสร้อยคอเป็นทุนให้เขาใช้ตั้งตัว ทั้งนี้ ยานอวกาศลำหนึ่งของเวอร์จิน กาลาติก มีชื่อว่า VMS Eve ซึ่งตั้งตามชื่อ อีฟ จอห์นสัน และเขาบอกว่า “เธอจะเป็นยานแม่ของผมตลอดไป”

ทั้งนี้ บิดาของแบรนสัน เสียชีวิตในปี 2011 โดยนอกเหนือจากแบรนสันแล้ว พ่อและแม่ยังมีลูกด้วยกันอีก 2 คน ได้แก่ ลินดี และ วาเนสซา

ข่าวคราวการเสียชีวิตของมารดามหาเศรษฐีระดับโลก มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่มีทีท่าซาลง โดยล่าสุด จากการนับของสำนักข่าวรอยเตอร์ พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งผ่าน 90 ล้านคน เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันจันทร์ (11 ม.ค.) ในขณะที่ทั่วโลกกำลังดิ้นรนมองหาวัคซีน ขยายขอบเขต หรือคืนสถานะมาตรการล็อกดาวน์ ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

สายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งถูกพบเบื้องต้นในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ เวลานี้กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทวีความรวดเร็วขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ด้วย 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เกิดขึ้นในช่วง 48 วันหลังสุด ตามข้อมูลของรอยเตอร์


ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกที่รายงานมีผู้ติดเชื้อ 25 ล้านคนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังคงเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในโลก ตามด้วยอเมริกาเหนือ และละตินอเมริกา ที่จำนวนผู้ติดเชื้อ 22.4 ล้านคน และ 16.3 ล้านคนตามลำดับ

นอกจากนี้แล้ว ในยุโรป ยังมีผู้เสียชีวิตคิดเป็น 31% ของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 1.93 ล้านคนทั่วโลก

สหราชอาณาจักรเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงสุดในยุโรป โดยเคสผู้ติดเชื้อทะลุ 3 ล้านคน เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ประเทศแห่งนี้อยู่บนเส้นทางของการสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 แก่ประชาชนกลุ่มอ่อนแอที่สุดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และมีแผนฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่ทุกคนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

เพื่อควบคุมตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประเทศต่างๆทั่วโลกเริ่มขยายขอบเขตมาตรการจำกัดความเคลื่อนไหวและปิดธุรกิจต่างๆ นานา

ในเยอรมนี นายกรัฐมตรี อังเกลา แมร์เคิล และมุขมนตรีของรัฐต่างๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เห็นห้องจำกัดการเดินทางที่ไม่จำเป็นสำหรับชาวบ้านในพื้นที่ทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดทั่วเยอรมนีเป็นครั้งแรก หลังคำสั่งล็อกดาวน์ในเดือนธันวาคม ไม่สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ

เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกำหนดเคอร์ฟิวช่วงเย็นเข้มข้นขึ้นในมาร์กเซย์ หลังจากเจ้าหน้าที่บอกว่าพบตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ตัวเดียวกับที่กำลังระบาดอย่างหนักในสหราชอาณาจักร ในเมืองแห่งนี้

สหรัฐฯ ชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในโลก รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อวันพุธที่แล้ว ด้วยพบผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,000 คนในวันเดียว

ประเทศแห่งนี้ซึ่งพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 22 ล้านคน นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 245,000 ต่อวันในช่วง 7 วันหลังสุด

ในเอเชีย อินเดีย มีผู้เสียชีวิตเกิน 150,000 คน เมื่อวันอังคารที่แล้ว กลายเป็นชาติที่ 3 ของโลกที่ผ่านหลักชัยอันน่าเศร้าดังกล่าว

(ที่มา: ซีเอ็นเอ็น/รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น