โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้ารับวัคซีนโควิด-19 โดสที่ 2 ในวันจันทร์ (11 ม.ค.) 3 สัปดาห์หลังจากเขารับวัคซีนโดสแรกที่ผลิตโดยไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนต่อวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ไบเดน วัย 78 ปี บอกกับอเมริกันชนว่า “ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล” ตอนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสแรกของไฟเซอร์ ที่โรงพยาบาลคริสเตียนา ในเมืองนวร์ก รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม
ทีมงานของว่าที่ประธานาธิบดี บอกว่าการฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ของเขาจะทำต่อหน้าสื่อมวลชนเช่นกัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดไปมากกว่านี้
มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วมากกว่า 374,000 คนในอเมริกา และ ไบเดน เมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) ตำหนิปัญหาในด้านการแจกจ่ายวัคซีนของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าล่าช้าไม่ทันการณ์
จนถึงตอนนี้เพิ่งมีอเมริกันชนเพียง 6.7 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว ทั้งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนประชาชนให้ได้ถึง 20 ล้านคน ภายในช่วงสิ้นปี 2020 ที่ผ่านมา
ด้วยที่เพิ่งแจกจ่ายวัคซีนไปทั่วประเทศได้เพียง 22.1 ล้านโดส ตอกย้ำให้เห็นถึงปัญหาความท้าทายด้านโลจิสติกส์ในการนำวัคซีนไปฉีดให้คนชรา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายในลำดับต้นๆ
ปัจจุบันมีวัคซีน 2 ตัวที่ได้รับอนุมัติในสหรัฐฯ ประกอบด้วยวัคซีนที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ซึ่งกำหนดให้ผู้รับจำเป็นต้องเข้ารับวัคซีนกระตุ้นโดส 2 หลังจากฉีดวัคซีนโดสแรก 3 และ 4 สัปดาห์ ตามลำดับ
ไบเดน ซึ่งจะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม อยากให้แจกจ่ายวัคซีนทุกโดสที่มีอยู่ จากเดิมที่มีแผนจัดเก็บไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อความแน่ใจว่าประชาชนจะได้รับวัคซีนกระตุ้นทันเวลา ตามมาตรการปัจจุบัน
คำประกาศเข้าฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ของไบเดน มีขึ้นท่ามกลางข่าวคราวที่สร้างความช็อกแก่ประชาคมโลก และเพิ่มข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพวัคซีนของไฟเซอร์ หลังพบผู้เสียชีวิต 2 รายในโปรตุเกส และสหรัฐฯ ไม่นานหลังจากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแห่งนี้
รายงานของเดลีเมล์ สื่อมวลชนของอังกฤษ ระบุว่า โซเนีย อาเซเวโด พยาบาลวัย 41 ปี เสียชีวิตกะทันหันที่บ้านพักของเธอเมื่อวันที่ 1 มกราคม ราว 48 ชั่วโมง หลังเธอฉีดวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ผลิตโดยไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค
เดลีเมล์ระบุว่า อาเซเวโดไม่มีโรคประจำตัวมาก่อน และไม่มีอาการของผลข้างเคียงใดๆ หลังเธอเป็นหนึ่งในบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแถวหน้าที่ได้รับวัคซีนที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม
จากนั้นเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่าแพทย์ชาวฟลอริดารายหนึ่งเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ได้ราวๆ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่วัคซีนตัวดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับเหตุการตายครั้งนี้หรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน
หนังสือพิมพ์ปาล์มบีชโพสต์รายงานว่า นายแพทย์เกรกอรี ไมเคิล วัย 56 ปี สูตินรีเวชวิทยา จากศูนย์การแพทย์เมาท์ไซนาย ในไมอามีบีช รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ (4 ม.ค.) หลังจากมีอาการหลอดเลือดสมอง ชนิดเลือดออกในสมอง (hemorrhagic stroke)
ภรรยาของเขาเขียนลงบนเฟซบุ๊กว่า 3 วันหลังจากได้รับวัคซีน ไมเคิลต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากมีตุ่มผุดขึ้นบริเวณผิวหนังของเขาซึ่งบ่งชี้ว่าเขาอาจมีอาการตกเลือดภายใน
แพทย์สรุปว่าเขามีอาการเกล็ดเลือดต่ำซึ่งพวกเขาพยายามเพิ่มเกล็ดเลือด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
กระทรวงสาธารณสุขรัฐฟลอริดาระบุว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์กำลังนำการสืบสวน และจะมอบผลการค้นพบแก่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคต่อไป
ไฟเซอร์ บริษัทผู้พัฒนาวัคซีนบอกว่า ทางบริษัทฯ จะเปิดการสืบสวนต่อเหตุเสียชีวิตของไมเคิลเช่นกัน “เรากำลังสืบสวนอย่างกระตือรือร้นในคดีนี้ในเวลานี้ เราไม่เชื่อว่ามันจะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงใดๆ กับวัคซีน”
(ที่มา : เอเอฟพี/นิวยอร์กโพสต์)