สหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มอีกเกือบ 4,000 คนเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ คาดยอดตายสะสมจะทะลุ 400,000 คน ในช่วงเวลาที่ โจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ วันที่ 20 มกราคม
อีกหนึ่งหลักชัยอันหน้าเศร้าท่ามกลางสถานการณ์ความยุ่งเหยิงทางการเมืองที่รัฐสภา สหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 3,998 คนในช่วง 24 ชั่วโมงจนถึง 20.30 น.วันพฤหัสบดี (ตรงกับเมืองไทย 08.30 น.ของวันศุกร์) โดยระหว่างนั้นพบผู้ติดเชื้อ 265,246 คน
ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 21,570,000 คน เสียชีวิตสะสมราว 365,000 ราย
ดูเหมือนจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ น่าจะทรงตัวอยู่แถวๆ ระดับสูงสุดเป็นสถิติต่อไปตลอดทั้งเดือน ในขณะที่จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กัดเซาะผลกระทบในทางบวกใดๆ จากโครงการฉีดวัคซีน ที่ประสบปัญหาติดขัดต่างๆ นานาในช่วงเริ่มต้น
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (6 ม.ค.) ประมาณการว่าสหรัฐฯ จะจบเดือนมกราคม ด้วยค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิต 2,600 คนต่อวัน จากการคำนวณดังกล่าวคาดกันว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะพุ่งผ่าน 400,000 คน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของโจ ไบเดน ในวันที่ 20 มกราคม
นอกจากนี้แล้ว ในแบบจำลองต่างๆ นานา 36 รูปแบบของทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ ยังประมาณการด้วยว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จะแตะระดับ 420,908 คนในวันที่ 30 มกราคม เร็วกว่าที่คาดหมายไว้เดิมเป็นอย่างมาก
สหรัฐฯ กำลังดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนผู้สมัครใจ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่ไม่เคยสูงเช่นนี้มาก่อน แต่จนถึงตอนนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วเพียง 5.5 ล้านโดส ต่ำกว่าเป้าหมายเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 248,978 คนจองเมื่อวันพุธ (6 ม.ค.) ส่งผลให้ค่าเฉลี่ย 7 วัน อยู่ที่ 222,100 คน เฉียดใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ดังนั้น ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) ก็น่าจะทำให้ค่าเฉลี่ย 7 วันหลังสุด พุ่งสูงขึ้นไปอีก
(ที่มา : เอเอฟพี/บลูมเบิร์ก)