สหราชอาณาจักรท้ายที่สุดก็ตัดขาดความเป็นพันธมิตรที่มีมายาวนานครึ่งศตวรรษกับสหภาพยุโรป อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี (31 ธ.ค.) พ้นจากตลาดเดี่ยวและสหภาพศุลกากรของอียู มุ่งหน้าสู่เส้นทางของตนเอง ประมาณ 4 ปีครึ่ง หลังจากประชาชนของพวกเขาลงมติสุดช็อกให้ถอนตัวออกจากกลุ่ม
เบร็กซิต ซึ่งครอบงำการเมืองของสองฝ่ายมาตั้งแต่ปี 2016 กลายเป็นความจริง หลังเข็มนาฬิาหอบิ๊กเบนแตะ 23.00 ในลอนดอน ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ของยุโรปเข้าสู่ปี 2021 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน บุคคลที่เป็นหัวหอกของการรณรงค์ถอนตัวจากอียู ให้คำจำกัดความว่าเป็น “วินาทีมหัศจรรย์” สำหรับประเทศ พร้อมประกาศว่า สหราชอาณาจักรยุคหลังเบร็กซิต จะเป็นประเทศเปิดกว้าง, เอื้อเฟื้อ, มองไปข้างหน้า, สนับสนุนหลักการความร่วมมือระหว่างประเทศและการค้าเสรี
ตามนิตินัยแล้ว สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปมาตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมปีก่อน แต่การถอนตัวอยู่ในช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่าน ระหว่างการเจรจาที่เต็มไปด้วยข้อพิพาท เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับบรัสเซลส์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็สามารถตกลงกันได้ในวันคริสต์มาสอีฟที่ผ่านมา
เวลานี้ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสิ้นสุดลงแล้ว กฎระเบียบต่างๆ ของอียูไม่ได้บังคับใช้อีกต่อไป ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในทันทีก็คือ จุดสิ้นสุดความเคลื่อนไหวเสรีของประชาชนมากกว่า 500 ล้านคน ระหว่างสหราชอาณาจักร กับ 27 ชาติสมาชิกของอียู
ด่านตรวจศุลกากรตามแนวชายแดนจะกลับมาเป็นอีกครั้งในรอบหลายทศวรรษ และแม้ข้อตกลงการค้าเสรีจะเปิดทางให้สหราชอาณาจักรเดินหน้าเข้าถึงผู้บริโภคเกือบ 450 ล้านคนของยุโรป แต่ก็คาดหมายว่า จะเกิดปัญหาความวุ่นวายและคิวยาวเหยียดในงานด้านเอกสารต่างๆ นานา
สหภาพยุโรปถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อหล่อหลอมความเป็นหนึ่งเดียวกันหลังความสยดสยองของสงครามโลก และสหราชอาณาจักรถือเป็นรัฐสมาชิกแรกที่ถอนตัวออกจากกลุ่ม
เมื่อวันพุธ (30 ธ.ค.) รัฐสภาสหราชอาณาจักรได้ลงมติให้การสนับสนุนอย่างท่วมท้นต่อความตกลงการค้าหลังเบร็กซิต หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในวันคริสต์มาสอีฟ โดย จอห์นสัน กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาพร้อมกับระบุว่า “ขณะนี้โชคชะตาของประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเราอยู่ในมือของพวกเราเองแล้ว”
ในขณะที่ข้อตกลงที่สงวนไว้ซึ่งการเสียภาษีเป็นศูนย์ของสหราชอาณาจักรและไม่จำกัดโควตาสำหรับการเข้าถึงผู้บริโภค 450 ล้านคนในตลาดเดี่ยวของกลุ่ม ช่วยหลีกเลี่ยงความยุ่งเหยิงของการทำธุรกิจในอนาคตอันใกล้ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การถอนตัวของสหราชอาณาจักรจะก่อความวุ่นวายต่างๆ นานาตามมา
จะมีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ เรื่องไล่ตั้งแต่พาสปอร์ตสัตว์เลี้ยง หรือระยะเวลาที่ชาวสหราชอาณาจักรจะสามารถพำนักอยู่ตามบ้านพักตากอากาศในชาติสมาชิกอียู รวมถึงการมีส่วนร่วมของสหราชอาณาจักรในโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน
ความเป็นไปได้ที่จะเกิดความยุ่งเหยิงตามท่าเรือต่างๆ นำมาซึ่งความกังวลอาหารและยาขาดแคลน ส่วนนักเดินทางและนักธุรกิจที่เคยชินกับการเดินทางแบบไร้รอยต่อในอียู ก็อาจประสบปัญหาล่าช้า
บรรดาชาวประมงสหราชอาณาจักรแสดงความไม่พอใจ ต่อข้อตกลงประนีประนอม ที่ยังคงให้เรือประมงทั้งหลายของอียู สามารถเข้ามาหาปลาในน่านน้ำสหราชอาณาจักรได้เหมือนเดิม
ภาคบริการทางการเงินอันสำคัญ ก็กำลังเฝ้ารอด้วยความกังวล เพื่อจะได้ทราบว่าพวกเขาจะสามารถเดินหน้าทำธุรกรรมกับยุโรปบนพื้นฐานอะไรบ้าง หลังจากภาคธุรกิจนี้ไม่ได้ถูกรวมเข้าไปในข้อตกลงการค้า
(ที่มา: เอเอฟพี)