ญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (28 ธ.ค.) ตรวจพบโคโรนาไวัสสายพันธุ์ใหม่กลายพันธุ์ สายพันธุ์เดียวกับที่พบในแอฟริกาใต้ ถือเป็นครั้งแรกที่พบเชื้อดังกล่าวในประเทศแห่งนี้ ที่กำลังเผชิญกับไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์อีกตัว อันเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในสหราชอาณาจักร
กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ระบุว่า ผู้หญิงในวัย 30 ปีเศษๆ ซึ่งเดินทางเข้าญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ถูกพบติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่พบในแอฟริกาใต้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแอฟริกาใต้ บอกว่า ไวรัสตัวกลายพันธุ์นี้ อาจเป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่นานที่ผ่านมา
คำแถลงตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่เชื่อมโยงกับแอฟริกาใต้ มีขึ้นหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (28 ธ.ค.) เริ่มห้ามพลเมืองต่างชาติที่ไม่มีถิ่นพำนักถาวรในญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศ หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กลายพันธุ์ สายพันธุ์เดียวกับที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในสหราชอาณาจักร หลายสิบคน
นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ เรียกร้องขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบก่อนเทศกาลวันหยุดปีใหม่ ช่วงเวลาที่โรงพยาบาลต่างๆ มีแนวโน้มว่าจะมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ และออกคำสั่งให้บรรดาคณะรัฐมนตรีตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
“พวกเขาบอกว่าไม่ปรากฏหลักฐานว่า วัคซีนที่เริ่มฉีดกันไปแล้วในต่างประเทศ จะไม่ได้ผลกับตัวกลายพันธุ์ และกระบวนการต่อต้านการติดเชื้อของมันไม่เปลี่ยนไปจากไวรัสตัวเดิม” ซูงะ กล่าว อ้างถึงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักร ที่แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม คำพูดของนายกรัฐมนตรีรายนี้ มีขึ้นก่อนหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขจะแถลงว่าพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวัสสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ ที่เชื่อมโยงกับแอฟริกาใต้
ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่แตะระดับ 3,881 คน เมื่อวันเสาร์ (26 ธ.ค.) ขณะที่ยอดตายทุบสถิติสูงสุดตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดที่ 64 รายในวันศุกร์ (25 ธ.ค.)
ยูอิชิโร ฮาตะ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม วัย 53 ปี และลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรี สึโตมุ ฮาตะ เสียชีวิตด้วยโควิด-19 ในวันอาทิตย์ (27 ธ.ค.) ส่งผลให้เขากลายเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรรายแรกที่ถูกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พรากชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง
(ที่มา: รอยเตอร์)