สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิก ทรงให้โอวาทเนื่องในวันคริต์มาส เรียกร้องให้ทุกคนเข้าถึงวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมวิงวอนประเทศต่างๆร่วมมือกันในหนทางแห่งการหลุดพ้นจากโรคระบาดใหญ่
"วันนี้ ในช่วงเวลาแห่งความมืดมิดและไม่แน่นอนระหว่างโรคระบาดใหญ่ แสงไฟแห่งความหวังต่างๆนานาปรากฏขึ้น อย่างเช่นการค้นพบวัคซีน วัคซันต้องมีไว้สำหรับทุกคน" สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสดำรัสในวันศุกร์(25ธ.ค.) ในการกล่าวคำปราศรัยประจำเทศกาลคริสต์มาสที่รู้จักกันในชื่อ "Urbi et Orbi" ในภาษาละติน หรือที่แปลว่า "ถึงเมืองนี้และโลกทั้งใบ" ที่วาติกัน
"ข้าพเจ้าของวิงวอนทุกคนที่บริหารรัฐ่างๆ บริษัททั้งหลาย และองค์กรระหว่างประเทศทั้งมวล ส่งเสริมความร่วมมือ ไม่แข่งขันและหาทางออกสำหรับทุกคน วัคซีนสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุดและผู้คนที่ขัดสนในทุกภูมิภาคทั่วโลก"
โป๊ปฟรานซิสขอให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกลุ่มประชากรที่เปราะบาง คนป่วย คนตกงาน หรือคนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งสตรีที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่ภายในบ้าน "ภายใต้ช่วงเวลาวิกฤติข้ามพรมแดนเช่นนี้ เราไม่ควรสร้างกำแพงขึ้นอีก เพราะทุกคนต่างลงเรือลำเดียวกัน" โป๊ปฟรานซิสกล่าว
แม้โอวาทของพระสันตะปาปาฟรานซิสเนื่องในวันคริสต์มาสปีนี้มุ่งเน้นไปที่เรื่องการระบาดของโคโรนาไวรัส แต่ยังคงครอบคลุมถึงประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่หลายประเทศกำลังเผชิญ รวมทั้งวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม ความขัดแย้งต่างๆในตะวันออกกลางและแอฟริกา ความทุกข์ยากทั่วทวีปอเมริกา ตลอดจนความไม่เท่าเทียมทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งล้วนต้องอาศัยความร่วมมือซึ่งกันและกันเพื่อข้ามผ่านปัญหาเหล่านี้
ก่อนหน้านี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรวงประกอบพิธีมิสซาในคืนวัน คริสต์มาสอีฟ บริเวณส่วนท้ายของมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา และเนื่องด้วยข้อจำกัดโควิด-19 จึงมีผู้เข้าร่วมเพียง 200 คน ในนั้น 30 คนเป็นพระคาร์ดินัล
พิธีมิสซาในคืนวัน คริสต์มาสอีฟ เป็นพิธีสำคัญในเมืองวาติกัน ซึ่งปกติแล้วมักจัดบริเวณส่วนหลักของมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา และมีผู้เข้าร่วมราวๆ 10,000 คนในแต่ละปี
ในปีนี้ ทุกคนยกเว้นพระสันตะปาปาฟรานซิสและผู้ร้องเพลงประสานเสียง ต่างสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 และพิธีนี้เสร็จสิ้นลงเร็วกว่าปกติ เพื่อเปิดทางให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับบ้านไปก่อนเคอร์ฟิว 22.00น.ของอิตาลี
อิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแรกในยุโรป และรัฐบาลบังคับใช้ข้อจำกัดระดับเข้มงวดสุดในความพยายามสกัดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงระลอกที่ 3
(ที่มา:ซีเอ็นเอ็น/รอยเตอร์)